Tuesday, November 21, 2017

รอย

เคยคิดอยู่ว่าขาย MBP แล้วอัพเกรดเป็นเครื่องที่มี Thunderbolt 3 ดีมั้ย แต่เป็นคนมี emotional attachment แล้วทำไม่ลง ผจญภัยมาด้วยกันตั้งนานตั้งแต่ซื้อมาจากโอซาก้าที่ญี่ปุ่น เปิดทำเกมบนรถไฟ บนเครื่องบิน ร้านกาแฟ.. ถ้ามันกลายเป็นเครื่องใหม่แล้วเหมือนสตอรี่จะหายไปแล้วเสียดาย เฮ่อ

แล้วก็ที่แปลก คือเสียดายรอยบิ่น 555 นี่ทำตกหน้าลิฟต์ที่ ม. ที่ญี่ปุ่น ตั้งแต่ลองเป็นคนไม่ใส่กรอบไม่ใส่อะไรแล้ว จากกลัวเป็นรอยกลายเป็นเสียดายรอยซะงั้น มันดูเป็นของเรา..




สมัยใช้ Dell Studio 1450 ที่มี on site ตอนนั้นเรียกให้เขามาเปลี่ยน Keyboard ได้ แบบเป็นรอยตัวอักษรหายหน่อยเคือง ไม่พอใจมากต้องเปลี่ยนๆๆ iPod Touch เผลอไว้กระเป๋าเดียวกับเหรียญปุ้บฟิล์มเป็นรอยก็เคืองจนอยากเปลี่ยน เดี๋ยวนี้เปลี่ยนแนวคิดมาอยู่กับรอยแทนแล้วรู้สึกว่ามีความสุขกว่า




แต่จอคอม อันนี้ต้องติดฟิล์ม.. ปกติมันไม่ใช่ของที่ต้อง expose ไม่ได้โดนอะไรเป็นประจำอยู่แล้ว ถ้าโดนแล้วคงยอมไม่ได้ 555

Tuesday, October 10, 2017

ประสบความสำเร็จ

วันนี้ผลประกวดเพลง Pump It Up ประกาศออกมาได้ที่ 1 ตัวเองยังไม่อยากจะเชื่อเลย ยังไงเรื่องราวเบื้องหลังของเพลง ไปอ่านในนี้ได้ครับ


ก็ทำให้รู้สึกวาบขึ้นมาได้เลยว่า... เราประสบความสำเร็จแล้ววว!!

"ประสบความสำเร็จ" ในความหมายนั้นนั่นแหละ ความหมายที่คนทั่วไป ใช้กับการที่สามารถไปถึงสถานะ การงานมั่นคง มีเงิน ครอบครัวอบอุ่นและเพื่อนฝูงรักใคร่

พูดแบบนี้อาจจะฟังดูเว่อร์ ชนะมันก็น่าดีใจอยู่แต่ไม่ถึงกับประสบความสำเร็จหรอกมั้ง? อาจจะเป็นคำถามที่คนแบบแม่ผมคิดในใจ "แล้วก็อย่าลืมสมัครสอบ กพ. กับหางานนะลูก" ผมรู้ว่าแม่ไม่ได้รอสิ่งนี้อยู่แต่ยังไงเกิดขึ้นแล้วก็ดีใจด้วย แม่ยังรอวันที่ผมจะประสบความสำเร็จอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่านี่แหละประสบความสำเร็จแล้วนะ! At this very moment!

(เอาจริงๆที่ทำได้ส่วนหนึ่งเพราะว่าไม่มีงานประจำ เพราะปกติทำไม่มีเสาร์อาทิตย์อยู่แล้วก็เลยลางานกับตัวเองแล้วเอาเวลา 4 วันมาตั้งใจกับอะไรก็ได้ ถ้างานปกติคงหา 4 วันต่อกันได้ยากมาก)

ผมเชื่อว่า ความสำเร็จ เป็นสิ่งที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับความจำเป็นต่อชีวิตก็ได้
(กลับกัน ผมคิดว่าเป็น extra ของชีวิตที่คนเราเพิ่มเข้ามาเองมากกว่า หรือพูดอีกอย่างก็คือคำถามที่ว่า "เราเกิดมาทำไม")

ที่ผ่านมาผมมองไปในโลก social ผมเห็นเพื่อนญี่ปุ่นแต่งงานแล้ว ผมเห็นพี่อีกคนมีลูกรักแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่เขาไขว่คว้า ผมว่าเขาประสบความสำเร็จ

ผมเห็นอีกคนโชว์พอร์ตหุ้น โชว์พอร์ต bitcoin ขึ้นอย่างมหาศาล นั่นเป็นเป้าหมายของเขามาตลอด เขาก็ประสบความสำเร็จแล้ว

ผมเห็นอีกคนปล่อยเกมที่ทำมานานแล้ว แม้ยอดขายอาจจะยังไม่ถล่มทลาย แต่ผมรู้สึกได้เลยว่าคนๆนั้นประสบความสำเร็จแล้ว แม้เงินจะจำเป็นกับชีวิตก็ตาม เพราะเห็นเขาตั้งใจทำเกมแนวนี้มาตั้งแต่ 4-5 ปีที่แล้ว

ความหมายประมาณนี้ ความสำเร็จที่ว่า มันเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกได้ว่าสมมติตายพรุ่งนี้ ก็จะเสียใจน้อยลง

เอาง่ายๆ สมมติวันนี้ได้เงิน 10 ล้านเลยแล้วตายพรุ่งนี้ เทียบกับวันนี้ชนะ Pump It Up Contest แล้วตายพรุ่งนี้เหมือนกัน ผมว่าอย่างหลังตายตาหลับกว่าเยอะ มาก...

เห็นมั้ยว่า sense of success มันต่างกัน แม้ดูเผินๆอาจจะดูกลับกันว่าได้เงินขนาดนั้นยังไงก็ต้องดีกว่า

ผมเคยชอบคนๆนึง แล้วสุดท้ายก็ตัดสินใจบอกเขาแล้วด้วย ถามว่าตายพรุ่งนี้แล้วตายตาหลับได้ดีขึ้นมั้ย ก็ใช่...

แม้จริงๆจะดูเหมือนความล้มเหลวก็ตาม แต่เห็นมั้ยว่ามันมีความสำเร็จอยู่

ครั้งนี้จะได้มีเพลงในตู้เกมอาร์เขตเป็นครั้งแรกดีใจมาก ย้อนกลับไปถึงตอน ปี 3 ที่เอาเงินเป็นหมื่นมาซื้อโปรแกรมแต่งเพลง Ableton Live 9 เพราะมันดันลดราคาอยู่ เรามาไกลเหมือนกันนะ อยากจะรู้ว่าเพลงเราเวลาออกมาจากลำโพงอาร์เขตจะเป็นยังไง เพราะทุกวันนี้ไม่เคยใช้ลำโพงแต่งเพลงได้ mastering ก็ต้องทำเดาๆในหูฟัง

หวังว่าความสำเร็จอันต่อไปจะเป็นจริงได้ ก็คือวันที่จะปล่อยเกม Mel Cadence นั่นแหละ.. ไม่ใช่วันที่ขายได้ดีจนเลี้ยงตัวเองได้นะ วันปล่อยนั่นแหละ.. เกมที่นั่งทำมาคนเดียว เกมที่ติดต่อกับคนญี่ปุ่นเองจนพิมพ์ญี่ปุ่นเริ่มได้ เกมที่ทำให้ได้เอาเข็มกลัดไปส่งต่อถึงมือคนแต่งเพลง ถ้าปล่อยมันออกมาได้ ไม่เรียกว่าสำเร็จก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว..!

ถ้าเกมขายไม่ได้ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเกมที่ล้มเหลว ถ้ามาทำเกมเพื่อหาเงินก็คงตามนั้น ขายไม่ออกก็ล้มเหลว แต่อย่าลืมตัวเราเองด้วย ถ้าเรามาทำเกมเป็น life goal ด้วย เราก็ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังไม่ทันรู้ยอดขายแล้ว และจริงๆชีวิตเรามันอาจจะต้องการแค่นั้นก็ได้นะ นอกเหนือจากปัจจัย 4

ผมเชื่อว่าจริงๆแล้วความสำเร็จ มันมีความหมายแนวๆนั้นมากกว่า

Sunday, September 10, 2017

ทริปภาค 2017

1. โปรเจคนั้นที่คิดไว้ตั้งแต่ปีใหม่ นึกได้ว่าต้องรีบแล้วล่ะ มาทริปนี้ได้ไอเดียพอสมควร
2. DJ จาก Spotify สนุกดี
3. อูฐ
4. Switch ได้แตะแล้ว ไฮเทคสุดๆ

Saturday, July 1, 2017

Echo เมเจอร์รัชโยธิน

ตอนนี้ตี 2 ครึ่งแล้ว เพิ่งกลับมาจากเมเจอร์

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของร้านเกมสาขานี้แล้วเนื่องจากเจ้าของ chain สู้ราคาพื้นที่ของทางเมเจอร์ไม่ไหว เลยเห็นว่าต้องทะยอยเอาออกจากเมเจอร์ และที่นี่ที่ใกล้บ้านขนาดเดินมา 5 นาทีก็ถึง มันคงไกลจากหลายๆคนแล้วมากันยาก บวกกับก่อสร้างสายสีเขียวอีก

ก็เลยถึงเวลาต้องจากกันแล้ว


Saturday, June 3, 2017

ลืมวันเกิด

พอดีไม่ได้เข้าเฟสรัวๆ แล้วก็ช่วงที่ผ่านมาโต้รุ่งจนลืมวัน....

ตัวเองคิดแบบนั้นไปแปปนึง แต่ก็แค่ข้อแก้ตัว เพราะยังไงลืมก็คือลืมจริง

ที่มารู้เพราะเข้าเฟสไปแล้วมันมีของเมื่อวานมาบอกด้วยนี่แหละ ถ้าไม่มีเฟสคงจะไม่เอะใจอะไรเลย (ยังไงก็ขอบคุณเฟซตรงนี้ด้วย)

ปกติเราจะคิดว่าควรจะอวยพรย้อนหลังดีมั้ย แก้ตัวยังไงดี

แต่ครั้งนี้คิดใหม่ได้ คือจะไม่อวยพร และจะไม่ทักไปแก้ตัวอะไรทั้งสิ้นเลยน่าจะดีกว่า

ถ้าอวยพรกับแก้ตัว ความรู้สึกผิดมันคงลดลงมาก (นั่นคือ point ที่อยากย้อนหลังจริงๆใช่มั้ย? จากคงามอยากอวยพรจริงๆ กลายเป็นเพื่อตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?)

แต่ครั้งนี้ตัดสินใจจะลองแบกความรู้สึกนี้ไว้

แบกไว้อีก 1 ปีเต็มๆ แล้วดูซิว่าปีหน้ามันจะลืมได้มั้ย

(เอาจริงๆเขาคงจะไม่ได้นึกถึงเราหรอก แต่ยังไงความแคร์ใครมันก็เป็น unidirectional graph อยู่แล้ว ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เป็นแบบนั้นแหละดี จะได้ไม่โดนตะหงิดใจที่ลืมวันเกิด.. เหอๆ)

ถามว่าทำไมต้องเสียใจขนาดนั้น ก็เพราะว่า โอกาสได้คุยกันอย่างเป็นธรรมชาติแค่ครั้งเดียวใน 1 ปี มันหายไปแล้วไงล่ะ ปกติเป็นคนกล้าทักใครซะที่ไหน

แล้วก็สุดท้าย หวังว่าเขาจะไม่มาอ่าน blog นี้ แต่ปกติไม่มีใครมาอยู่แล้ว...

Thursday, May 4, 2017

ทริปญี่ปุ่นครึ่งหลัง - นาริตะ / Narita (3/3)

วันสุดท้ายก็ไป Co-working space ที่ Shibuya ที่เล็งไว้















Ants-office (ありんこオフィス) (http://www.ants-office.com) ที่นี่แนะนำเป็นอย่างมากกกก! เพราะแพคเกจถูก ราคาดี มีแยก daytime, night time แล้วก็ไม่แพงเท่าที่แรก เปิดเพลงเบาๆ แต่เปิด EDM อีห่า เปิดเบาๆทำไมไม่เปิด pop, bossa นี่ Tremor มาเลย 555



แล้วก็เครื่องดื่มฟรีไม่อั้น! มีน้ำเหมือนในร้านอาหารเลย calpis, ginger ale, กาแฟ โกโก้ มอคค่า ร้อนเย็น
นี่นั่งกินจนจะเป็นเบาหวาน

แล้วก็เลยได้ให้น้องถ่านหินออกโรงครั้งแรก ตั้งแต่เที่ยงๆถึง 1 ทุ่มก็ร่างได้มาเท่านี้ พึงพอใจกับความละเอียด 8192 มาก





จากนั้นผมก็ออกมา Narita ตามแผนยกเลิกโรงแรมมานอนสนามบิน ซึ่งก็ได้มาสำรวจที่นอนกับปลั๊กสมใจอยาก (มาครั้งต่อไปพุ่งไปถูกที่แน่ๆ) ไปอ่านรีวิวละเอียดได้ตามนี้เลย


พรุ่งนี้หวังว่าจะตื่นทัน 9 โมง... ต้องทันสิ ไปนอนดีกว่าาา

ทริปญี่ปุ่นครึ่งหลัง - ลาก่อน เฉาก๊วย (2/3)



วันนี้ (จริงๆเขียน blog วันนึงให้หลัง แต่จะเขียนวันนี้ให้หมายถึงเมื่อวานของวันนี้ งงมั้ย 55) จริงๆว่าจะไป co working space ที่ Shibuya

แต่ที่คิดๆมานาน... ก็คือ จะซื้อ tablet วาดรูปใหม่ดีมั้ย

คือคนมาญี่ปุ่น จะคิดแต่ฝากซื้อรองเท้า Onitsuka บ้าง Anello บ้าง เครื่องสำอางค์บ้าง แต่อย่างนึงที่คนคิดไม่ถึงคือ Wacom ราคาถูกกว่าไทยมากครับ (16000 บาท -> 12000 บาท)

แล้วก็เกิดการเปลี่ยนแผนครั้งใหญ่ เพราะอีก 2 วันที่กลับเที่ยวบินมัน 9 โมงเช้า แล้ววันนี้ตื่น 7 โมง ถ้าวันสุดท้ายตื่นแบบนี้ต้องชิบหายแน่นอน

ก็เลยเกิดแผน extreme ขึ้นมาอีกอย่างคือ cancel โรงแรมคืนสุดท้าย แล้วลองไปนอนสนามบิน Narita กันดีกว่า!

สมัยเรียนนอน Kansai มาหลายคืนทุกครั้งที่กลับมาญี่ปุ่นจากไทย (Air Asia X มันถึง 5 ทุ่ม ออกไปไหนเท่ากับตาย) จนรู้ตำแหน่งโซฟา เก้าอี้ และปลั๊กเทพแล้ว ก็คิดเหมือนกันว่าอยากรู้ว่า Narita จะเป็นไงบ้าง

โอเคเลยตกลงตามนั้น วันนี้เลยเปลี่ยนจาก co working เป็นตัดสินใจเรื่อง tablet ซะที เพราะญี่ปุ่นคงไม่ได้มาง่ายๆอีก

จริงๆก่อนมาไม่ได้คิดจะซื้อเลย แต่เพิ่งมานึกออกว่าประเทศนี้ Wacom ถูกนี่นา..


Tuesday, May 2, 2017

ทริปญี่ปุ่นครึ่งหลัง - Co-working adventure (1/3)

ที่ต้องแบ่งเป็นครึ่งหลัง เพราะจริงๆทริปว่าจะจบลงในวันที่ 1 แล้วกลับวันที่ 2 นั่นเอง

แต่ตอนซื้อตั๋วปรากฏว่าตั๋วกลับวันที่ 5 ค่อนข้างถูกกว่า...

ก็เลยปิ๊งไอเดีย ใช้ ability เฉพาะของ Freelance Game Dev นั่นคือ "ทำงานที่ไหนก็เหมือนๆกันถ้ามีปลั๊กกับเน็ต"

เกิดเป็นแผน "อยู่ญี่ปุ่นต่อ แต่ใช้ชีวิตเหมือนอยู่ไทย" ดูซักครั้งในชีวิตซิ! ก็คือหาที่ทำงาน ปกติที่ไทยไปคาเฟ่ไม่ก็อยู่ห้องไรงี้ นี่ก็น่าจะทำแบบเดียวกันได้ แค่ว่าอาหารเที่ยงเย็นมีราเมงให้หาชิม แล้วก็ตกดึกเล่นเกมที่ไม่มีที่ไทยได้~! (ต้องห้ามใจไว้ด้วย ตาละ 100 เยนดูถูกแสนถูกแต่แปลงเป็นไทยแล้วจริงๆเท่ากัน)

สำคัญกว่าคือตังจะหมดแล้ว ไปหาร่อนเที่ยวไม่ได้ ซื้อเพลงมามากเกินไปหน่อย 555 ตอนแรกไม่คิดเลยนะว่าแลกมา 50000 เยนมันจะหมดได้ - -  จนในที่สุดได้ใช้สูตรโกงกดธนาคารญี่ปุ่นที่เหลือเงินเก็บทิ้งไว้ 3 แสนเยน ที่ว่าจะเก็บไว้โอนให้นักแต่งเพลงญี่ปุ่น

นี่ก็เลยคิดจะไปลองหา co-working space ดูว่ามันจะเป็นไง (จากที่อยู่​ญี่ปุ่นมา ประเทศนี้หาปลั๊กยากมากๆ คาเฟ่แทบไม่มีปลั๊ก Starbucks ยังแทบไม่มีปลั๊กเลย ปลั๊กหาง่ายสุดคือในส้วมที่มีที่ฉีดตูดอัตโนมัติ แล้วถอดปลั๊กส้วมมาเสียบคอม เคยค้างคืนในส้วมมาแล้ว 5555)

ได้ข้อมูลมาจาก https://tokyocheapo.com/business/drop-in-coworking-spaces-tokyo/ ก็เลยสุ่มเลือกมา ก็ว่าจะลองไปที่ Ginza แหล่งร้านอาหารแพงห้างหรู

หรูจนไม่มีร้านเล่นเกมกับร้านข้าวหน้าเนื้อโง่ๆเลย ลำบากมาก 555



อาหารเช้า แน่นอนไหนๆมาเที่ยวคนเดียวแล้วก็อยากทำสิ่งที่ทำเมื่อมากับเพื่อนไม่ได้...​ คือกินโซบะ



ถ้ามากับเพื่อนเกิน 4 คน โอกาสน้อยมากที่จะไม่มีซักคนบ่นว่าอาหารบ้าอะไรไม่มีเนื้อ มีแต่แป้งกับน้ำ ไปร้านอื่นเหอะ 555 แต่จะบอกว่าเราชอบมาก แล้วมันมีไม่น้อยด้วยนะ เช่นอุด้งเต้าหู้หวาน โซบะเปล่าๆ หรือโซบะผักเทมปุระที่เห็นในภาพ

จากเว็บบอกให้ไปชั้น 2 ของตึกโง่ๆนี้ ซึ่งป้ายยังไม่มีเลยว่าชั้น 2 คืออะไร





ขึ้นมาชั้น 2 เจอแต่ทางเดินแคบๆกับห้องน้ำนึกว่ามาผิดมาเจอชั้นว่าง



..แต่ที่ไหนได้ในประตูไม้นั่นมันเป็น co-working space 555









ได้เครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว แต่ก็ไม่ค่อยฟรีหรอกเพราะค่าอยู่วันนึงตั้ง 2000 เยน
ราคา range อยู่ที่ 1000-2000 เยน เลยเลือกที่ๆแพงๆก่อน วันหลังว่าจะลองเข้าที่ถูกๆบ้าง



หลังจากประกาศกร้าวใน Twitter ว่าจะทำเกม เวลาผ่านไปจากเที่ยงถึง 1 ทุ่ม เพลงเสร็จซะงั้น 555 เกมไม่ได้แตะ 55 คือตอนกำลังจะเริ่มทำเกม อยู่ๆก็กังวลว่าเพลงที่เดดไลน์สิ้นเดือนจะทันมั้ยเลยเปิดดูเล่นๆ แล้วไอเดียก็มาซะงั้น Dynamix น่าจะรอดไป 1 เพลง.. เพลงนี้จริงๆร่างไว้ตั้งแต่สมัยเรียน ป โท ชื่อเพลง Antithesis ชื่อดูจะเท่นะ แต่ความหมายจริงๆคือ กูไม่อยากทำ Thesis แล้วว้อย

โดยรวมแล้ว ร้านเฉยๆ เพลงไม่มี ไม่เอะอะ แต่ ambient กลิ่น ราคา บรรยากาศ แพ้ร้าน NKNO ข้ามเมเจอร์ไปเยอะ (ที่สำคัญ NKNO 60 บาท นี่ 2000 เยน) รวมแล้วถ้าแค่วันแรก กลับไทยน่าจะดีกว่า เพราะออกมาจากร้านก็มืดละ เหอๆ



กินราเมงตามสัญญาตัวเอง



วันนี้ไอ้พูมกลับไทยแล้วเลยอดอยู่ห้องมันฟรีต่อ ก็เลยมาหาที่พึ่งที่คุ้นเคย โรงแรมแคปซูล Asakuka ของแท้ 2200 เยนที่ค้นพบกับไอ้โอเมื่อฝึกงาน 5 ปีก่อน!! จากวันนั้นมา มาโตเกียวเมื่อไหร่ที่พึ่งทางกายก็เป็นที่นี่เสมอมา ไม่มีอะไรถูกกว่านี้แล้ว แต่ห้ามทิ้งกระเป๋าไว้นะเขาจะทำความสะอาดห้อง ต้อง check out ทุกวันแล้ว check in หลัง 4 โมงเย็น









ที่บอกว่าของแท้เพราะส่วนมากแคปซูลเดี๋ยวนี้แพงกว่าห้อง guest house อีก มันกลายเป็นของหรูของนักท่องเที่ยวไปละ หาแคปซูลที่แปลว่าของประหยัดแทบไม่ได้ รู้จักแค่ที่นี่ที่เดียวนี้แหละ

แล้วก็ เน็ตแรง! ทำงานต่อในรูนี้ยังได้เลย

พรุ่งนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะไปไหน จริงๆว่าจะออกจากรูไปหาเกมเล่นแต่เข้ามาแล้วใจสงบจนขี้เกียจละเลยมาเขียน blog แทน (กลายเป็น 1 วันที่ขาดทุนกว่าอยู่ไทยอย่างแท้จริง ถ้าไม่นับราเมงกับโซบะ)

แล้วก็ จริงๆคนที่ทำอะไรแบบนี้เขาเรียกว่า digital nomad (https://en.wikipedia.org/wiki/Digital_nomad) ก็อยากลองมี lifestyle แบบนั้นซักครั้งในชีวิตแบบเที่ยวไปทำงานไป แต่เอาจริงๆต้องรวยก่อน 55 แล้วก็ทำเกมรู้สึกตัวอีกทีจากเช้าก็เป็น 4 ทุ่มแล้วไม่รู้จะได้เที่ยวได้ยังไง ลองชิมแบบปลอมๆในช่วง 3 วันนี้ไปก่อนก็แล้วกัน 555

Sunday, April 30, 2017

ทริปญี่ปุ่นครึ่งแรก - M3春2017

วันนี้เหนื่อยแล้วแต่จะรีบพิมพ์ไว้เผื่อลืม

เป็นครั้งที่  2 ที่ไปงาน M3 ก็ได้เจอเพื่อนเหมือนครั้งที่แล้ว

นอกจากคุณ REVLIS ที่เที่ยวมาด้วยกันแต่แรก รอบนี้เจอ Mumeisen 13 กันเยอะตอนแรกๆ ได้เจอหน้าคุณ MALVA, KIRI, Meisolate, Alf Zero, Trinity, キョウソウ, わーらー, 白, Kefi  ส่วนรุ่น 12 สุดท้ายก็ได้เจอกันกับ Kuroshiro ครบทีมเหมือนเดิมกับบูทข้างๆก็เป็นบูท 7mm เหมือนครั้งที่แล้ว กับได้เจอคุณ sukuramu กับ omi แล้วก็ myshrd เหมือนปีที่แล้ว แล้วก็แวะไปหาคุณ Sakamiya เหมือนครั้งก่อน

หยิบซีดีที่มีเพลงตัวเองจากบูท Kuroshiro เรียบร้อย


สุดท้ายก่อนเวลาหมด ทุกคนทั้ง 12 13 มารวมตัวกันอยู่หน้าบูท Kuroshiro รู้สึกขนลุกว่าทุกคนมาอยู่ด้วยกันได้ด้วย BMS

ก็ได้แต่คิดว่า Mumeisen นี่มันเป็นงานที่พิเศษ กว่างานอื่นๆตรงที่เหมือนมันมีสายรุ่นอะไรซักอย่างผูกกันไว้ 555 แล้วก็บนรถไฟ ในร้านเนื้อ ก็คุยเรื่อง BMS เรื่องโน้ต กับเรื่องแต่งเพลงกัน ก็รู้สึกว่าเจ๋งดี

คุณ Umiai ที่ทำเพลงหามรุ่งหามค่ำ จนไม่รู้ว่าปีใหม่ผ่านมาเมื่อไหร่ ทวีตท้อแท้มาทุกวันๆจนได้ออกอัลบั้มใน M3 จนได้ ก็รู้สึกนับถือมาก อยากจะทำให้ได้แบบนั้นบ้าง

แล้วก็ได้ไปหาคุณ Euchaeta ที่ชอบเพลงมากอีกรอบ ครั้งที่แล้วไปหาในฐานะแฟนเพลง ครั้งนี้ได้ไปในฐานะ Game Developer เขาส่งเพลงมาให้เราได้ไงยังไม่อยากจะเชื่อ แถมเพลงโคตรสุดยอดฟังแล้วจะร้องไห้ เลยคิดว่าต้องไปขอบคุณซึ่งๆหน้าให้ได้เลย ก็เลยได้ให้ของที่ระลึกกับมือด้วย เสียดายนักร้องไม่ได้มาด้วย ก็เลยฝากอีกอันไปให้


ของที่ระลึกได้ให้ในงานไปประมาณ 10 กว่าคนเลย ใน Kuroshiro มีคุณ Re:gats& กับ tanacoro บูทหมาข้างๆมีคุณ minter กับคุณ NA7 อยู่ แล้วก็ได้ไปเจอคุณ adaptor กับ uma คุณ REVLIS ที่เที่ยวด้วยกันก็ได้ให้ไปแล้ว กับคุณ MALVA ก็ได้ให้กับมือ คนนี้เคยไปให้คะแนนใน PABAT เต็ม 100 แล้วเขาก็ส่งเพลงนี้มา โคตรโกง จะไม่ผ่านได้ไง 55

จบงานก็มาตบ music game กันนิดหน่อยแล้วก็กินชาบู 



ภาษาญี่ปุ่นพบว่าเก่งขึ้นกว่าครั้งก่อน แต่ก็ยังไม่พอที่จะสนทนาได้อยู่ดี ได้แค่ฟังประมาณ 40% ทำให้มีไฟเรียนญี่ปุ่นขึ้นอีกเยอะ เผื่อจะมีครั้งต่อไป


ครั้งต่อไปจะมีรุ่น 14 เพิ่มขึ้นมาแค่ไหน รุ่นที่ 12 ของเราจะหายไปแค่ไหน ก็ได้แต่คิด อืมๆๆๆ






แต่ยังไงทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดจริงๆ ตอนเริ่มทำเกม ตัวเองก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มาแจกของที่ระลึกให้คนที่ร่วมสร้างเกมเดียวกันกับเราข้ามประเทศแบบนี้

นอกจากไฟเรียนญี่ปุ่นแล้ว ไฟทำเกมก็ลุกโชนเลยแหละทีนี้!



วันต่อมาไปที่ถ่ายทำ BMS AMAZING 2016 ที่ Yokohama กับ REVLIS

มีคู่มือนำเที่ยวที่คุณ myshrd เขียนไว้ในนี้ http://lorhimi163.blog.fc2.com/blog-entry-191.html

ปรากฏว่าฝนตก เหมือนใน MV เพลง AMAZING TROPICAL เป๊ะ 55555555








AMAZING IS THE ALL!!



ต่อไป ไปอ่าวอะไรซักอย่างของเพลงใน IIDX ภาค Red ที่ไม่รู้จัก แต่อีกสองคนที่เหลืออยากไป ทะเลสวย เรือดี ลมเย็น ชอบ

ตอนเย็นในที่สุดก็แยกกันเป็นอันจบ "ครึ่งแรก" ของทริปญี่ปุ่นแปลกประหลาดครั้งนี้ ที่เต็มไปด้วยมิวสิคเกม เพื่อนที่เจอในเน็ต และการแต่งเพลง

ครึ่งหลังกำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 2-5...

Friday, April 28, 2017

ไปญี่ปุ่นแบบใหม่ ครั้งแรกในชีวิต

ตอนนี้รออยูอีก 1 ชม.เครื่องจะออกไปญี่ปุ่น

แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ไม่ได้เพราะไปเที่ยว ไม่ได้ไปเรียน ไม่ได้ไปทำงาน แต่ไปเพื่อเจอคนเฉยๆนี่แหละ!

จริงๆก็ไปร่วมงานขายเพลงงานหนึ่ง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่จะได้เจอกันหลังจากปีที่แล้วที่ผ่านมาเลยนึกสนุก น่าจะเจ๋งดี เลยซื้อตั๋วเพื่อการนี้

หลังจากซื้อไปแล้วก็ไม่คิดว่าระหว่างวันนั้นถึงวันเดินทางเราจะตัดสินใจ collab เพลงกับคนไต้หวันคนนึง แล้วคนนั้นก็ดันจะมางานเดียวกันกับเรา เลยได้นัดเที่ยวกัน กลายเป็นได้เพื่อนเที่ยวเฉยเลยต่อมาจากวันนั้นที่แค่ทักไปเล่นๆว่ามา collab กันมั้ย คนไม่ใช่คนญี่ปุ่น 2 คนน่าจะเท่ดี

มันเกิดขึ้นอีกแล้วสินะ! chain of events!

เที่ยวครั้งนี้จะผิดหวังหรือจะสุดยอดก็ไม่รู้สินะ อีก 5 วันข้างหน้าคงรู้กัน แต่คิดว่าชีวิตนี้คงตามหา chain of events แบบนี้ไปเรื่อยๆก็ไม่เลวเหมือนกันนะ


Sunday, April 2, 2017

อีกช่วงชีวิตที่แปลกใหม่

ตั้งแต่ blog post นั้นที่เล่าเรื่องปล่อยคลิป Mel Cadence ครั้งแรก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรับสมัครเพลง มาถึงวันนี้ 1 เมษามันก็เป็นวัน deadline แล้ว

เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ได้เป็น "กรรมการ" คือต่างจากเป็น TA ตรวจคะแนนอะไรงี้ด้วยเพราะนี่ ไม่มีเกณฑ์อะไรทั้งสิ้น แต่เราต้องตัดสินใจว่า ผ่านหรือไม่ผ่าน

Thursday, March 30, 2017

รู้สึกวูบวาบ

ก็เลยจะลงภาพไว้เป็นที่ระลึก (กลัวหาย + ลืม)





(22/4/2017)

Saturday, March 18, 2017

คุยกับ encX 2 ชม.

เมื่อวันก่อนๆทัก encX ไปครั้งแรกในรอบหลายปีเรื่องเกมที่ทำอยู่ว่าอยากทำเพลงมาลงมั้ย ก็เห็นบอกว่าไม่ได้ทำเพลงมา 2 ปีกว่าแล้วก็เลยกลายเป็นตกลงว่าได้เพลงเก่ามา 2 เพลง (เพลงอะไรความลับอิอิ) แล้วต่อจากนั้นนึกได้ว่าคีย์บอร์ดที่ให้ยืมไปยังไม่ได้คืนก็เลยนัดมาคืนกันที่เมเจอร์รัชโยดีกว่า

วันนี้มาเจอกันหน้าตู้ปั้ม เหมือนวันนั้นที่นัดมาแต่ง Exargon ที่สตาร์บัคเด๊ะ เล่นเกมเสร็จถามแล้วว่าว่างก็เลยคุยกันสัพเพเหระตอนนี้ทำอะไรอยู่ เรียนไรอยู่ ก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าทำ front end web อยู่นานแล้ว แล้วก็รับจ๊อบ web dev เหมือนกันอีกต่างหาก เราที่เพิ่งเข้ามาสายนี้ไม่นาน พูดศัพท์ใหม่ไป Node, Mocha, Express, npm ฯลฯ อะไรไปก็เข้าใจหมดเลย โอ้ ไม่น่าเชื่อเลย (หน้าไม่เหมือนคนสายคอม 555)

กะจะเดินกลับไปขึ้นรถก็เลยตัดสินใจพาแวะร้านกาแฟในตำนาน NKNO พร้อมบรรยายสรรพคุณทุกอย่างที่ว่าทำไมมันเลิศขนาดนี้ ก็เลยได้คุยยาวถึงเรื่องชีวิตตอนนี้ว่าที่นี่เป็นฐานทัพมาตั้งแต่ประมาณธันวาแล้ว และก็แลกเปลี่ยนชีวิตกัน

ภาพนี่แอบถ่ายมา
แล้วพอมาถึงที่รอรถอยู่ๆก็กลายเป็นคุยกันต่อไปเรื่อยๆไม่จบสิ้นซะที 555 อัพเดทตั้งแต่เรื่อง Thapster ว่าตอนนี้บริษัทเป็นไง เกิดอะไรขึ้นบ้าง คนทำโน้ตเป็นยังไงกันบ้าง คุยกันมันส์มาก 555 แล้วก็เรื่องที่โปรแกรมแต่งเพลงไปถึงไหน Ableton Live ก็ยังเหมือนเดิม คุยกันอัพเดทว่า synth ไหนแต่ก่อนใช้บ่อย ป่านนี้ iZotope ไปถึงไหนแล้ว ได้แนะนำว่า Serum ดียังไง (เปิดคอมมาโชว์ที่ที่รอรถเลย) เรื่องที่ว่าไปฟังเพลงตัวเองแต่ก่อนแล้วอนาถก็เลยเดาถูกอีกว่าเป็น William Tell คุยกันเรื่องเพลงไหนโดนบังคับแต่งบ้างเพลงไหนเป็นตัวเองจริงๆบ้าง แล้วก็ยาวไปถึง Exargon ได้คุยถึงเรื่องที่ Renpul มา remix เพลงได้สุดยอดมาก แล้วก็ได้เล่าชีวิตที่ญี่ปุ่นให้ฟังว่าเพราะ Exargon ก็เลยได้เจอความหล่อของชีวิตหลายอย่างลากยาวตลอดมา ได้เล่าถึงบรรยากาศคนทำเพลงที่ญี่ปุ่นด้วย ซึ่งน่าอิฉฉามากๆ encX ก็คิดเหมือนกัน อยากให้ไทยมี ecosystem แบบ doujinshi + twitter + music games + club event ของญี่ปุ่นมากที่มันทำให้ทุกคนก้าวไปข้างหน้าตลอด แล้วไหนจะเรื่องเสียงเถื่อนที่เราก๊อปมาจาก encX ตั้งแต่ Thapster ที่ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ พอพูดแล้วก็ยังจำได้อยู่ก็ตลกดี

แล้วก็ได้คุยเรื่อง chain of event หลายๆอย่างแลกเปลี่ยนกัน ของ encX ก็ไม่น่าเชื่อว่า Rhythmix ก็เริ่มมาจากพี่อ๊อบ OB1 อีกทีที่แนะนำคนไทยที่แต่งเพลงมาให้ทีมทำเกม ซึ่งก็รู้จักกันมาจาก Technika อีกที  จริงๆพี่คนนี้ก็เกียวข้องกันกับเรากับญี่ปุ่น เพราะคุยปรึกษานิดหน่อยก่อนไปเรียน แล้วที่ encX มาเริ่มทำเพลงจริงจังขึ้นก็เห็นว่าเพราะไทด้วย แล้วเราก็เคยทักไปในเพจ Rhythmix ว่าอยากทำเพลงให้ซึ่ง encX นี่แหละที่มาฟัง แล้วต่อมาก็มาเจอกันตัวจริงครั้งแรกที่ Thapster แล้วก็ได้เข้าไปทักว่าชอบ Night Trip มาก แล้วเรื่องราวต่อจากนั้นก็นั่นแหละ เป็น Exargon แล้วก็ไทมาแนะนำให้เอาไปแข่ง BMS แล้วก็เจอกับพวก Mumeisen 12 แล้วก็รู้จักคนญี่ปุ่นจนได้กินเนื้อย่างกันเล่นเกมด้วยกันตอนเรียนโท ได้เล่าเรื่องที่ว่าประเทศนั้นมี club event ที่ข้างในเปิดแต่เพลงเกมก็มี จนมาตอนนี้ได้ทำเกมตัวเองก็มีคนญี่ปุ่นพวกนั้นแหละที่ส่งเพลงเข้ามา จนกลับมาตอนนี้ก็ได้ชวน encX เอาเพลงมาลงเกมนี้ด้วย...... ผ่านมาสองสามปี เสี้ยวเหตุการณ์พวกนี้มันยังพัวพันกันอยู่เสมอ coming into full circle

อาจจะสรุปเกินไปหน่อย แต่อ่านดูแล้วก็พูดได้ว่า ถ้าไม่มีเกม Technika ก็ไม่มีวันนี้ 55555 butterfly effect

มาคิดดูดีๆ มันสุดยอดเลยนะ เหตุการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่พัวพันกัน มันกลับมาพัวพันกันใหม่อีกไม่รู้จบกี่รอบกี่รอบ เราคิดว่านี่แหละคือเป้าหมายชีวิตที่แท้จริงไม่ใช่เงิน ไม่ใช่อำนาจ แต่มันเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า event หล่อๆ ชีวิตนี้ อยู่ไปเพื่อตามหา event หล่อๆ อยากเจออีกเยอะๆ ใช้เงินให้ตายยังไงก็ไม่ได้ครึ่งของความหล่อที่พิมพ์มาย่อหน้าที่แล้ว หลังจากเล่าเรื่องที่ญี่ปุ่นให้ encX ฟังก็บอกว่าอิฉฉาเหมือนกันอยากได้ chain แบบนั้นบ้าง เพราะตั้งแต่ทำ Exargon เสร็จแล้วแยกกันตอนนั้นก็ไม่เกิดอะไรขึ้น (ที่หล่อๆ)

แต่ที่แน่ๆตอนนี้อยู่ในชตากรรมเดียวกันสุดๆคือทำ front end หาเงินทั้งคู่จนไม่ได้ทำฝันของตัวเองต่อ ไม่น่าเชื่อเลย 555 ของเราคือทำมิวสิคเกมให้เสร็จแล้วอยากได้เงิน 20000+ ต่อเดือนเป็นใช้ได้แล้วก็จะเก็บตังบินไปขายเพลงที่ญี่ปุ่น 100 แผ่น ไปทักทายให้ของขอบคุณทุกคนที่ส่งเพลงมาเกมเราให้ได้ถือว่าฟินแล้ว แล้วก็ใช้เงินทำเกม action เกมต่อไปที่คิดไว้ด้วย ส่วนของ encX ก็คืออยากเป็น DJ กับ producer ชื่อดังแบบ Zedd ให้ได้ แต่ละคนก็มีความฝันที่เหมือนจะยังไม่มอดแต่ก็โดนความจริงกลบอยู่เหมือนกัน

เวลาผ่านไปนานสุดๆก็คิดว่าควรกลับแล้วถึงแต่ละคนจะว่างเหมือนกันก็เหอะ ก็เห็น encX บอกว่าได้คุยแล้วเริ่มมีไฟแล้วจะ comeback ดีมั้ย ก็ดีใจที่วันนี้อาจจะเป็นจุดเริ่ม chain ต่อไปของอีกคน ก็หวังว่าเหตุการณ์ของพวกเราจะมาพัวพันกันอีกเกิดเป็นความหล่อใหม่ๆในอนาคตเรื่อยๆ

Tuesday, February 28, 2017

กุมภา

หลังจากเดือนมกราที่เหลือเชื่อแล้ว มาสู่เดือนกุมภาที่เป็นอีกอารมณ์นึงไปเลย เลยอยากจะเขียนไว้หน่อย 555

เข้าเดือนกุมภามาไฟจากเดือนมกรายังไม่หมด ก็เลยรีบปั่นต่อโดยมีเป้าหมายคือทำวิดิโอ trailer ให้ได้ จะได้เริ่มรับสมัครเพลงจากคนญี่ปุ่นซะที ถ้าไม่มี gameplay ก็คงไม่มีนักดนตรีเชื่อใจเราว่าเราทำอะไรได้ขนาดไหน ก็เลยฮึดสู้สุดๆๆ ต้องทำ demo แบบเร่งด่วน ต้องวาดมือครั้งแรก เอาเพลงเก่ามายำเป็น soundtrack ภายใน 1 ชม. บ้างล่ะ เพลงที่ขอจากเพื่อนญี่ปุ่นตั้งแต่ 2 ปีก่อน สมัยที่ยังเรียนอยู่ญี่ปุ่นอยู่เลย ในที่สุดก็ได้มาทำโน้ตเพื่อจะโชว์ซะที (ตอนนั้น คิดว่า ป.โท จะมีเวลาทำเกม ผิดมหันต์ 555) แล้วก็เซ็ตอัพ website เซ็ตอัพ social ทุกอย่าง เรนเดอร์วิดิโอ ทดสอบดีเลย์เสียงเวลาอัพ Twitter / YouTube พิมพ์หน้ารับสมัครเพลงไว้รอ ขอให้เพื่อนตรวจภาษาญี่ปุ่น... ทั้งหมดนี้ จำได้ว่าเป็นช่วง 7 วันต้นเดือนกุมภา ที่แทบจะลืมไปเลยว่าขอบเขตของวันอยู่ตรงไหน เพราะเกมคอมแทบไม่ได้แตะ ข้าวก็จำไมได้ว่าเมื่อวานกินอะไรบ้าง และที่สำคัญพอได้อัดวิดิโอจริงก็เจอบัคอีกมาก ได้ความรู้ใหม่อีกเพียบเลย

แต่มันสนุกจริงๆ ให้ตายสิ เหมือนจะให้ทำต่อไปเท่าไหร่ก็ได้นะ!



Saturday, February 4, 2017

พักเที่ยง

วันนี้เดินเกษตรแฟร์เหนื่อยแล้วเลยนึกสนุกมาลองนั่งที่เดิมๆดู


แค่ได้มาอยู่ที่ประจำแล้วมันผ่อนคลายดีนะ มีนาทีนึงที่เหมือนรู้สึกได้ว่าชีวิตหยุดไปแป๊ปนึง ได้นั่งมองแล้วนึกภาพเหตุการณ์ในอดีตไปเรื่อยๆ ที่ตรงนี้ มีทั้งตอนเที่ยงที่ไม่ได้คิดอะไร มีทั้งเที่ยงที่เบื่อเรียน มีทั้งเที่ยงที่คิดมากจนหายใจไม่คล่อง มีทั้งเที่ยงที่อยากรีบกลับขึ้นไปข้างบนสุดๆ

พูดถึงขึ้นไปข้างบนก็จำได้ว่าเรามักจะขึ้นไปก่อน แล้วก็จำได้ต่ออีกว่าใครมักจะอยู่ในห้องก่อนแล้ว ใครจะเปิดประตูตามเข้ามาทีหลังเป็นประจำ มีใครที่ชอบอยู่ในลิฟต์ด้วยกันบ้าง ตอนนั้นถ้าคนอื่นรู้ว่าเราคิดสังเกตอะไรขนาดนี้ คงดูโรคจิตพิลึก

ทั้งหมดนี้ มันเป็นเสน่ห์อย่างนึงของ "พักเที่ยง" ที่ทั้งชีวิตคงไม่กลับมาอีกแล้วล่ะมั้ง โชคดีที่มีโอกาสได้สัมผัส

จะว่าไปแล้วก็เพิ่งทำเพลงนึงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับที่ประจำไป ซึ่งจริงๆแล้วไมได้อิงจากที่นี่ แต่ก็พอจะเชื่อมโยงความรู้สึกกันได้

แน่นอนว่าเอาคอมกับงานมาด้วยเพราะกะจะมานั่งลมโกรกเล่นๆ 555 แต่ที่นี่มันสงบจนอยากฟุบนอนยาวๆเหมือนที่เคยทำจริงๆ

Wednesday, February 1, 2017

Achievement Unlocked : ทำเกมไม่หยุดเลยเป็นเวลา 1 เดือน

เดือนมกราจบลงไปพร้อมกับสถิติใหม่ที่แม้แต่ตัวเองยังตกใจ คือทำงานทุกวันไม่เว้นวันหยุดเป็นเวลา 1 เดือนติดต่อกัน

พิมพ์ว่างาน เลยฟังดูกลายเป็น stereotype คนบ้างาน ไม่สนใจชีวิต ฯลฯ ไปในทันที แต่จริงๆแล้วคือทำเกม... ทำเกมทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน

มาคิดดูถ้าเป็นงาน บ. คงเหมือนคนบ้าจริงๆทุ่มเทไปทำไม แต่นี่มันอดไม่ไหวที่จะพาผลงานของตัวเองจริงๆชิ้นแรกให้ใกล้เส้นชัยไปเรื่อยๆ เลยเกิดเป็นความรู้สึกใหม่ว่าอยากทำทุกวันจริงๆ..​ จนเกมก็ไม่ได้เล่นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ Pokemon Moon ที่เอากลับอุดรไป จนกลับมากรุงเทพอีกทีก็ยังไม่ได้เล่น

ลองมองย้อนกลับไปทั้งตอน ป โท ทั้งตอนทำงาน บ. ทั้งตอนเรียน ไม่เคยมีอะไรแบบนี้แน่ๆ เอะอะอะไรก็หาเวลาเล่นเกมเสมอ เล่นเกมตลอดไปได้เลยยิ่งดี 555 แต่เราตอนนี้ความรู้สึกที่ได้สร้างของๆตัวเอง มันสนุกมาก จนแทนการเล่นเกมได้เลยหรือเนี่ย เราเองก็เพิ่งค้นพบเหมือนกัน

Monday, January 2, 2017

ปีใหม่ 2017 จ้า

ตกลงก็ว่าจะทำตามแผนที่ไปสมัครงานประจำแล้ว เพราะคำนวณชีวิตผิดไปหน่อย

ตอนแรกคิดว่าจะทำเกมเต็มๆซักปีไง เพราะคิดว่าเงินจากญี่ปุ่นก็พออยู่ได้ เงินได้จากเกมเดือนละ 6250 ก็พออยู่ได้

ส่วนเรื่องใช้จ่ายเราก็ไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว ข้าวกิน 35 บาททุกวันอย่างเดียวก็ได้ที่ญี่ปุ่นก็กินอย่างเดียวกันเป็นเดือนมาแล้ว

แม่ก็ว่าหลายครั้งหลายหนอยู่ว่าเมื่อไหร่จะมีเงินเหมือนคนอื่นเขาซะที คือมองเหมือนเป็นคนไร้ค่าในสังคมอะนะ แม้ทุกวันจะแทบไม่ได้พักเลยเพราะปั่นเกมเพื่อจะไปถึงจุดนั้นก็เหอะแต่ผลมันไม่ immediate เหมือนเงินเดือนไง ตราบใดที่ยังไม่มีเงินเดือนก็เหมือนโดนมองว่ามีค่าเป็น 0 แล้วโปรเจค แล้วโค้ดในคอมนี่ไม่มีค่าซักนิดเลยเหรอ คือตอนแรกที่คิดว่าตลอดปีที่วางแผนไว้เวลาผ่านไปก็อาจจะรู้สึกเข้าใกล้จุดหมายไปเรื่อยๆ แต่พอมีแม่มากดดันแบบนี้ (ประมาณว่า เมื่อไหร่จะได้ เมื่อไหร่จะได้เงินๆ) กลายเป็นยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งรู้สึกต้องทำอะไรซักอย่างกับชีวิตแทนที่จะพยายามต่อไป