Monday, April 25, 2016

เรื่องราวจากงาน M3

โพสต์นี้ไม่ค่อยมีภาพนะครับเพราะคนญี่ปุ่นเขาไม่นิยมถ่ายภาพรัวๆกันเหมือนไทย ละก็บูทคนมาเรื่อยๆไม่มีเวลาถ่ายครับ (ถึงห้องแล้วภาพจะตามมา)

วันนี้เรียกได้ว่าเป็นวันที่ยาวนานและให้อะไรหลายอย่างที่สุดในเกือบสองปีที่อยู่ญี่ปุ่นเลยก็เป็นได้...!

เริ่มจากประเทศนี้มันเจ๋งตรงที่มีงานอะไรแบบนี้เรื่อยๆ ซึ่งดูจากทวิตเตอร์คือมันกระตุ้นคนสร้างสรรค์ได้ดีสุดๆ M3 นี่มันเป็นงานแค่วันเดียวจาก 11 โมงเช้าถึงบ่าย 3 ด้วยนะ แล้วมันทำให้ทุกๆคนเตรียมอัลบั้มเตรียมอะไรมาขายได้ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้วเลยทีเดียว!

ครั้งนี้แตกต่างตรงที่... พอจะรู้ตัวว่าตุลานี้ถ้าจะจบไปแล้วโอกาสมางานแบบนี้คงจะยากขึ้นมากเพราะตัดสินใจบินมาญี่ปุ่นเพื่อมางาน 1 วันที่ยาวแค่ครึ่งวันก็คงคิดหนักสุดๆ (ที่จริงแบบอยู่นี่ก็ค่อนข้างจัดเวลายากละ) แล้วก็คอมิเก็ตทีไร M3 ทีไรก็เห็นเพื่อนๆเตรียมของขายกันสนุกสนานทุกที เลยอยากไปเห็นกับตาซักครั้งว่ามันจะเป็นยังไง

แล้วรอบนี้ มีเพื่อนหลายคนออกของสำคัญของตนเอง หลายๆคนเป็นคนไม่มีชื่อเสียงที่รู้จักมาจากงาน Mumeisen ซึ่งก็อดไม่ได้ที่จะเทียบว่างานนั่นมัน 1 ปีที่แล้วนี่นะซึ่งเป็นงานของคนไร้ชื่อที่ไม่รู้จักกันเลย ปีนึงเติบโตมาได้จนออกอัลบั้มขนาดนี้ และรู้จักกันหมดขนาดนี้ อยู่บูทเดียวกันขนาดนี้ได้ยังไง

ก็เลยตัดสินใจจะไปโตเกียว 1 วันไปกลับเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งกังวลมาก!! เพราะเป็นครั้งแรกเลยที่จะโดนบังคับให้ใช้ภาษาญี่ปุ่นแบบไม่มี fallback เป็นอังกฤษเหมือนตอนอยู่แลป จะคุยรู้เรื่องมั้ย คนที่ในทวิตเตอร์ไลค์โพสต์ภาษาญี่ปุ่นแกรมม่าแปลกๆของเราตัวจริงจะเกลียดเรารึเปล่า ฯลฯ


Sunday, April 17, 2016

[Live Blog] MUSECA New Face!





ที่จริงเริ่มไปได้พอสมควรละแต่เพิ่งมาตัดสินใจเขียน Live Blog ตามธรรมเนียมตอนจะลุยโปรเจคแข่งกับเวลาแบบนี้

งานนี้มีความพิเศษอยู่สองอย่างคือเป็นงานแรกของ Konami ที่รับเฉพาะหน้าใหม่ แปลว่าโอกาสเข้าไปแล้วโดนเทพดังๆที่ติดแล้วติดอีกเขี่ยทิ้งก็น้อยลง อีกความพิเศษคือ สงสัยจะเป็นโอกาสเดียวในชีวิตนี้แล้วถ้าไม่คิดจะย้ายสำมโนครัวมาญี่ปุ่น เพราะว่าของ Konami ทุกอันมีข้อห้ามว่า ถ้าไม่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นจะส่งประกวดไม่ได้ กว่าจะมีงานต่อไปก็คงจะเรียนจบแล้ว (ถ้าได้เปเปอร์อะนะ)

ว่าแล้วก็มาลองลุยกันซักตั้ง เดดไลน์ต้นเดือนหน้า ตอนนี้หลังสงกรานต์แล้ว! อีก 20 กว่าวัน

[16-17 April] 

ครั้งนี้ตัดสินใจทำเพลงที่มีท่อน dubstep ครั้งแรกในชีวิต ว่ากันว่านักแต่งเพลงทุกคนต้องอยากทำ dubstep เข้าซักวัน ใช้โอกาสนี้เลยก็แล้วกัน 555

ธีมของ Museca ที่กำหนดมาคือ "Dramatic" เพลงนี้มีความเป็น Exargon กับ Maid Battle ผสมกัน ไม่รู้จะลงตัวมั้ย แต่เพลงออกบอสๆหน่อยตามสไตล์มิวสิคเกม ถ้าส่งไปแล้วไม่ผ่านก็คงจะเอามาลงมิวสิคเกมตัวเองได้ด้วย

Progress วันนี้ท่อน Dubstep เต็มช่องว่างเต็มเบาใจขึ้นหน่อยกับ chorus ใส่พวกคอร์ดข้างหลังซึ่งกินเวลามากในการวางโน้ตได้เยอะแล้ว จะใส่เครื่องดนตรีอื่นก็สามารถก๊อปโน้ตพวกนี้มาลบๆย้ายๆได้ไม่ต้องงมคีย์บอร์ดใหม่



วันนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย ตื่นเที่ยง (เพราะเมื่อคืนดันคิดท่อน dubstep ออกก่อนนอนเลยลุกมาต่อจนเช้า) แล้วตอนนี้ทุ่มนึงข้างนอกมืดแล้ว วันนี้ดูจากหน้าต่างอากาศดีมากแต่ไม่ทันได้ออกไปโลดเล่นก็มืดซะก่อน น้ำยังไม่ได้อาบเลยเนี่ย 555


Tuesday, April 5, 2016

กลับไทยอีกและ? (ไม่กลับแล้ว...)

วันนี้ไม่ได้นอน ตอนนี้ตี 5 ครึ่งแล้ว เพราะอยู่ๆก็คิดอยากกลับไทยช่วงสงกรานต์ (กลับแบบดาบหน้าแทบทุกรอบ)

มีเพื่อนคอมเมนต์ว่าเมิงกลับไทยอีกแล้วเหรอ...

คือพอมาอยู่นี่นี่คือ ครอบครัว เพื่อนที่ไทย ฯลฯ มันกลายเป็นของหายากไง ตอนอยู่ญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนแฟนตาซี คืออยู่ญี่ปุ่นแบบคนญี่ปุ่น วนอยู่แค่ห้องนอน เซเว่น แลป ห้องนอน แล้วพอตอนวันหยุดปุ๊บก็เข้าเมืองไปเล่นเกมไปหาร้านอาหารกิน แล้วก็กลับมา วนเหมือนเดิม... เหมือนตอนอยู่ไทย ทั้งที่มีทะเลสวยๆที่คนต่างประเทศหมายปองกันเยอะก็ไม่ได้ไปรัวๆนั่นแหละ ความรู้สึกเดียวกันเลย

ตะกี้เพิ่งคุยกับเพื่อนสมัยมัธยม ตอนนี้มันเรียนอยู่ฟิลิปปินส์ (หรืออินโดวะ) มีคำนึงที่เห็นด้วยมาก คิดเหมือนกันเลย คือมันพูดว่าตอนกลับไทยแทบไม่อยากนอนเลย อยากใช้เวลาให้คุ้มค่า คือมันจริงมาก เป็นบทเรียนนึงที่สำคัญเลยเวลาได้มาอยู่ต่างประเทศ แต่ก็คงขึ้นกับคนด้วยแหละเพื่อนหลายๆคนไปเรียนต่างประเทศแล้วก็เที่ยวรัวๆไม่ค่อยสนใจจะกลับไทยเท่าไหร่