เดือนมกราจบลงไปพร้อมกับสถิติใหม่ที่แม้แต่ตัวเองยังตกใจ คือทำงานทุกวันไม่เว้นวันหยุดเป็นเวลา 1 เดือนติดต่อกัน
พิมพ์ว่างาน เลยฟังดูกลายเป็น stereotype คนบ้างาน ไม่สนใจชีวิต ฯลฯ ไปในทันที แต่จริงๆแล้วคือทำเกม... ทำเกมทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน
มาคิดดูถ้าเป็นงาน บ. คงเหมือนคนบ้าจริงๆทุ่มเทไปทำไม แต่นี่มันอดไม่ไหวที่จะพาผลงานของตัวเองจริงๆชิ้นแรกให้ใกล้เส้นชัยไปเรื่อยๆ เลยเกิดเป็นความรู้สึกใหม่ว่าอยากทำทุกวันจริงๆ.. จนเกมก็ไม่ได้เล่นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ Pokemon Moon ที่เอากลับอุดรไป จนกลับมากรุงเทพอีกทีก็ยังไม่ได้เล่น
ลองมองย้อนกลับไปทั้งตอน ป โท ทั้งตอนทำงาน บ. ทั้งตอนเรียน ไม่เคยมีอะไรแบบนี้แน่ๆ เอะอะอะไรก็หาเวลาเล่นเกมเสมอ เล่นเกมตลอดไปได้เลยยิ่งดี 555 แต่เราตอนนี้ความรู้สึกที่ได้สร้างของๆตัวเอง มันสนุกมาก จนแทนการเล่นเกมได้เลยหรือเนี่ย เราเองก็เพิ่งค้นพบเหมือนกัน
แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีข้อเสีย คืออีกไม่นานเงินคงหมดแล้วต้องกลับเข้าไปทำงานประจำแล้ว ชีวิตก็คงกลับมาเป็นเหมือนเดิมคือทำงานประจำเต็มที่พอถึงเลิกแล้วก็อย่าหวังว่าจะแตะมันอีกเลยกลับบ้านเล่นเกม.. ตอนนี้งานที่สมัครไปยังไม่ได้ ก็เลยหวังว่าก่อนจะได้อยากจะใช้ช่วงเวลามหัศจรรย์นี้เข็นเกมให้ไปได้ไกลๆ อยากรู้จังว่าจะมีใครชอบบ้าง
ปีใหม่ resolution แรกก็รู้สึกจะสำเร็จไปด้วยดี เพราะสามารถ self push กับเป้าหมายที่แทบจะมองไม่เห็นได้ (คือไม่รู้จะได้เงินมั้ย หรือเสร็จเมื่อไหร่ยังไม่แน่เลย) ถ้าทำงานประจำยังพอเห็นเงินเดือนลอยรออยู่ตลอดไปให้ฮึดสู้ทุกวัน นี่แทบไม่มีอะไรลอยอยู่ยังอุตส่าห์ทำสถิติมาได้ครบเดือน ก็เลยรู้สึกว่า เราคงเจอสิ่งที่ชอบทำจริงๆละมั้ง ถ้าเป็นของหารายได้ให้ชีวิตได้ในอนาคตได้ก็คงจะดีไม่น้อย..
ส่วนเกมตัวนากก็ไม่ได้แตะเพราะเพื่อนร่วมทีมไม่มีใครคิดจะแตะก็เลยเกิดอารมณ์ช่างแมร่ง 555 ในเมื่อจะมีเกมใหม่แล้วก็เริ่มฮึกเฮิมว่าเราไม่ต้องทนโดนทีมจับเกมเป็นตัวประกันแล้ว ตัวประกันคือ เมิงจะทำก็ทำไปหรือจะเลิกก็ได้ตามใจเพราะไงก็ทำอยู่คนเดียว 55 แล้วก็เลยเกิดเป็น deadlock ว่าจะเลิกก็เสียดายเหมือนลูกตัวเองที่ปั้นขึ้นมา แต่จะทำต่อก็เกิดความคิด negative ว่ายังไงรายได้ก็ต้องหาร ที่ผ่านมาเลยกลายเป็นว่าต้องทำเพราะไม่อยากเห็นมันตาย แต่ใจไม่ค่อยอยาก innovate อะไรเพิ่มแบบใหญ่ๆให้เปลืองแรงอยู่คนเดียว เพื่อนในทีมที่เหลือก็ไม่ใช่ไม่เก่งนะแต่คงต้องมีเงินเดือนถึงจะทำงานเต็มความสามารถ เพราะขนาดงานบริษัทยังขยันไปทำงานทุกวันจนได้ดีเลย คงไม่เหมาะที่จะให้มอง long term goal ที่แทบจะมองไม่เห็นเป็นทุนในการลงแรง (บ. แบบนี้เลยไม่ค่อยเห็นกัน ปกติไปกู้เงินมาให้เงินเดือนกันทั้งนั้น แต่พอดีไม่อยากเป็นหนี้...)
ผลงานใหม่ที่ไม่มีความรู้สึกนั้น ก็เลยทำให้รู้ว่ามันมีผลมากๆๆๆๆ มากที่สุด คืออยากทำโน่นนี่นั่น ทุกซอกทุกมุม ให้มันดีๆเลย อยากให้คนเล่นมาเจอแล้วตื่นเต้น อยากเซอร์วิสเต็มที่ จริงๆก็รู้สึกคล้ายๆตอนจะเข็นตัวนาก v แรกออกมานะ ตอนนั้นนั่งทำเว็บ ทำวิดิโอแอนิเมชั่น แต่งเพลงทุกเพลง ทำเสียงทุกเสียงอย่างละเอียด ตอนนั้นหลายๆคนก็ active กว่านี้ ตอนนี้รู้สึกว่าได้รับความสนุกของตอนนั้นอีกครั้ง
ขาดอย่างเดียวคือเงินจะหมดนี่ล่ะน่า.. ตอนนี้มันไม่ได้เงิน เหอๆ แต่ก็พยายามคิดนะว่าชีวิตมันคง "ใช้" ได้หลายแบบกว่า ก่อร่างสร้างตัว ปักหลักปักฐานแบบที่แม่ชอบ... ถ้าไปใช้แนวคิด X ก่อน แล้วค่อย Y ทีหลัง ก็อดคิดไม่ได้ว่าพอถึงจุดนั้นแล้วเราคงเสียดายว่าทำไมไม่ทำสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จในชีวิตไปด้วยเลยแลกกับเงินที่น้อยลง (มาก) เช่นถ้าเราไปต่อเอก เป็นครู สอนจนมีเงินเก็บเป็นล้าน แล้วค่อยทำเกมตอนอายุซัก 30 มันก็คงได้แล้วก็คงสบาย แต่ถ้าทำเกมไปเลย แล้วเงินติดตัวแดงลากเลือดไปเรื่อยๆจนอายุ 30 ก็เหมือนใช้เงินเป็นล้าน ซื้อชีวิต 5 ปีมา (ตอนนี้อายุ 25 นะเออ) มันก็เหมือนจะคุ้ม..ล่ะมั้ง 555 นี่ก็เป็นการใช้เงินอย่างนึงเหมือนกันนะ! แต่เป็นใช้เงินในอนาคต (จากจะได้ กลายเป็นไม่ได้) แลกกับประสบการณ์ชีวิต... แพงจัง! แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าไม่เอามาซื้ออะไรแบบนี้ จะซื้ออะไรดี... (Upright piano!) เที่ยวก็คงจ่ายเงินแล้วได้ไปเลย แต่การ "ทำ" มีเงินยังไงก็ต้องการเวลา ถ้าเป้าหมายชีวิตเป็นอยากทำอะไรซักอย่าง คิดว่าคงต้องให้มันไปด้วยกันเลยดีกว่า (เพลง ฝึกมาตั้งแต่สมัยปี 3 แล้วยังไม่ได้เรื่องเลย)
พูดถึงเรื่องทำ ก็เพิ่งเปลี่ยนคำคมประจำ บ เป็น "Craft your life's work" คือไม่ได้มาทำงานนะ แต่มาสร้างผลงานของชีวิตกันเถอะ!
แล้วก็ความรู้สึกต่อเนื่องนี่ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่รู้สึกว่าไม่ต้องมีเสาร์อาทิตย์ก็ได้ เพราะงานมันไม่ได้ทรมานขนาดต้องพักเหนื่อย (ระหว่างวันก็พักเรื่อยๆอยู่แล้ว) ทำได้เรื่อยๆก็สนุกดีไม่เสียหายอะไร ประมาณสัปดาห์ที่ 3 ไป 4 นี่ รู้สึกระบบวันโปร่งใสมาก จนแยกวันไม่ออกว่าเมื่อวานคืออะไร แปปเดียว 1 สัปดาห์วนมาอีกรอบแล้ว ก็แปลกดี 555 อยากทำอีก อยากทำต่อเรื่อยๆ ของๆเราเองเลยนะ อยากให้มันเสร็จจัง!
ได้คิดต่อว่าถ้าเงินไม่จำกัดคงจะดีรึเปล่าจะได้ทำได้เรื่อยๆไม่ต้องกังวลเลย คิดดีๆแล้วคงไม่จริงเพราะหนึ่งในความสนุกคือมันอยากหาเงินให้ได้ด้วยผลงานตัวเองนี่แหละ ยังไงชีวิตก็ควรหาประสบการณ์สนุกๆ เพราะงั้นไม่มีเงินมากนี่แหละดีแล้ว! มีเยอะนี่คงพลาดไปเลย ถึงขนาดไปบอกแม่ว่าห้ามไปบนบานที่ไหนให้เกมขายดีเด็ดขาด เดี๋ยวขายดีแล้วความดีความชอบไม่ใช่ของตัวเอง 100% หวงมากกกก ตอนเข้ามหาลัยยังให้บนได้ แต่เรื่องของที่สร้างเองตั้งแต่ต้นจริงๆแบบนี้ห้ามครับแม่!
สำเร็จได้จริงขึ้นมามันคงจะมีอะไรสนุกๆอีกเยอะเลย อยากไปคุยกับผู้เล่นที่ญี่ปุ่นด้วย อยากเอาเกมไปออกงาน ขายพวงกุญแจอครีลิค อยากขาย CD OST ด้วย ถ้าเก่งญี่ปุ่นเมื่อไหร่ก็อยากเปิด live พูดเรื่องเกมให้แฟนๆต่างชาติฟังให้ได้ซักครั้งในชีวิตเหมือนกัน... มีอะไรอยากทำเป็น "locked" รออยู่เพียบเลย ซึ่งต้องผ่านด่านแรกคือทำเกมให้ได้ดีๆซะก่อน..! อยากจะบอกให้แม่ฟังเหมือนกันว่า list สิ่งที่อยากทำ แบบนี้มันก็มีเหมือนกัน แต่ความจริงคือแค่บอกแม่ว่าบ้านของตัวเองคงไม่มีปัญญาจะซื้อง่ายๆ แม่ก็สวนมาแล้วว่า ได้ไงลูก! (แม่คงเห็นว่ามันเป็น default locked bucket list) คือนี่จริงจัง เสียวว่าชีวิตจะพังมากๆ 555 พังคือ แม่คงไม่ปลื้ม พล่ามนานแล้วหยุดไปนอนดีกว่า
อีกไม่นานคงได้เวลาที่เหล่านักแต่งเพลงจะเริ่มออกเดินทางในเส้นทางใหม่ที่กำหนดขึ้นมาเองของชีวิตเป็นครั้งแรกแล้ว! จากชีวิตวิ่งตามรางที่ไม่ได้คิดอะไร อยู่ๆทุกอย่างก็ค่อยๆเปลี่ยนไป... (เนื้อเรื่องเกม inspired จากชีวิตจริง)
No comments:
Post a Comment