Monday, June 4, 2018

ความคาดหวังที่ orthogonal

ไปทริปกับครอบครัวที่ผ่านมา แม่พูดแต่เรื่องระบบสืบตระกูล เบื่อออออ ประมาณ 38 ครั้ง เดี๋ยวนู่นก็จะแต่งงานแล้ว นี่ก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบของเค้านะ ส่วนไอ้หมอนี่เมื่อไหร่ฮึ ไอ้พวกนี้มันเฉื่อยค่ะ เฉื่อยบ้าอะไร เหมือนโดน deny existence ตลอดเวลา จะทำเกมทำอะไรก็ช่างไม่ว่า แต่จะรอแค่เมื่อไหร่แต่งงานกับเป็นครูมีเงินเดือนซะที? เรื่องโดนว่าไม่รู้จักแสดงความรับผิดชอบเพราะไม่ยอมเป็นฝั่งเป็นฝามั่นคงให้แม่ซักทีนี่ จริงๆก็เคยโดนมาก่อนแล้ว

เฉื่อยนี่ยิ่งตบหน้า คือ 2-3 ปีนี่คือไม่เฉื่อยที่สุดในชีวิตแล้วมั้ง ที่นั่งทำมามันเหมือนว่าเราอยู่นิ่งๆซะงั้น? ตอนอยู่ ป โทก็นับแค่วิจัยกับใบจบแต่เวลาส่วนใหญ่ที่เอามาออกแบบเกมสงสัยไม่นับ แต่คนทั่วไปมองว่าชีวิตอยู่กับที่ไง เงินเดือนก็ไม่มี checkpoint อย่างเช่นเงินเดือนขึ้น ตำแหน่งขึ้นมันก็ไม่มี จะมี git commit log ก็ไม่ใช่อะไรที่จะเห็น บาง log ยิ่งต้องชมตัวเองเป็น milestone ที่สร้างเองเพราะไม่มีเจ้านายไม่มีปาร์ตี้อะไรจะมาฉลอง เซิจดูหาเครื่องหมายตกใจเยอะๆคงเจอ

ส่วนเพจนี้ที่เป็นตัวตนของเราจริงๆก็ไม่สน ละก็ชอบว่าไม่เล่นไลน์ไม่เล่นเฟซ ก็ไม่มีอะไรจะเล่าในนั้นนี่นา จะให้เล่าก็ออกมาเป็นเหมือนคอนเทนต์เพจนี้เพราะนี่แหละสิ่งที่เราทำที่เราเจอทุกวัน จะดูตลกมั้ยล่ะเวลาอยู่กลางฟีดคนอื่นๆที่เขา "ชีวิตเดินหน้า" กัน ก็เลยทำเป็นเพจแทนจะได้ไม่เบียดเบียนใครละใครอยากฟังค่อยเข้ามา

จริงการตัดใจมาทำอะไรแบบนี้ มันน่ากลัวอยู่แล้ว ทำไมจะไม่เคยคิดกังวลเรื่องนี้ เรื่องที่จะไม่เจอคน ชีวิตด้านนึงมันก็ต้องหยุด (ชั่วคราว) อยู่แล้ว ซักวันคงกลับไปเป็น normie แต่ก็ไม่ได้อยากให้มาย้ำทุกครั้งที่เจอกัน ปีละ 3-4 ครั้ง ของมันใช้เวลาทำ

เคยอธิบายดีๆตั้งหลายรอบแล้ว ว่ามันจะไปได้อย่างที่คาดหวังได้ไงในเมื่อทุกวันเป็นงี้ ถ้าเลือกงานราชการปกติก็ easy mode ไปแล้ว เพราะมีเงินมีสังคมไง align กับความคาดหวังพอดี นี่เลือกจะทำเกมเหรอ เหมือนหาเรื่องใส่ตัวเองเพราะทีนี้นอกจากต้องพยายามเรื่องเกมแล้ว ยังต้องมาคอย satisfy อันที่ไม่ได้อยู่ในทางนั้นพร้อมกันอีก ความคาดหวังมัน orthogonal กันกับทางที่ไป ก็ไม่รู้จะมาหวังทำไม อันนี้ก็ต้องคอยบอกให้ชื่นใจ เออเดี๋ยวเสร็จแล้วจะทิ้งไปเข้างานปกติๆแล้วรออีกหน่อย จริงๆก็แอบรู้สึกว่าตัวเองน่าจะมี potential ด้านทำเกมแหละ แต่ไม่รู้สิ เจอ fake difficulty เพิ่มขึ้นมาเยอะเกิน ลองคิดว่าถ้าทุกวันมีคนมาคอยย้ำว่าเมื่อไหร่จะได้เป็นนักบินอวกาศ ทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรที่ไปทางนันเลยจะรู้สึกยังไง
พอแบบนั้น ก็บอกว่านันมันก็ไม่เหมือนกัน ชีวิตมันก็ต้องมีทั้งงานทั้งอย่างอื่นไปด้วยกันไม่ได้เหรอ "ใครๆเค้าก็ทำกันทำไมเราไม่ได้" (อันนี้ไม่ใช่ทริปนี้ ตั้งแต่ปีใหม่) โอ้ชิท ยิ่งรู้สึกเหมือนโง่เองที่พยายามทำเกมแบบใส่เต็ม 300% เหมือนทุกวันนี้

แค่นิยามคำว่าชีวิตก็ไม่ใช่แล้ว แม่คิดว่าชีวิตประกอบด้วยงานกับครอบครัว ไม่ใช่ การใช้ชีวิตคือการใช้ชีวิต จะทำอะไรก็คือการใช้ชีวิตนะผมคิดว่า จะไปว่าคนที่เค้าตั้งใจสร้างของอยู่คนเดียวว่าชีวิตขาดหาย มันก็ดูไม่ใช่ ไม่ได้อยากจะพูดว่างานคือชีวิต เพราะมันฟังดูลบ ที่ฟังดูลบเพราะนิยามชีวิตมันเป็นแบบนั้นแหละ งานคือชีวิตก็เลยแปลว่า แล้วสังคมกับครอบครัวล่ะ? ถ้าเปลี่ยนคำว่างานเป็นการใช้ชีวิต อาจจะฟังเข้าท่าขึ้น ทุกวันนี้ปั่นเกมอยู่ก็โดนมองว่า "ทำแต่งาน" (implies แล้วเมื่อไหร่จะมีครอบครัว) ทำไมถึงไม่มองว่ากำลัง "living" บ้าง คนที่มีความสุขกับคนที่รักเขาก็กำลัง living คนที่สนุกกับการสร้างอย่างวิศวะเขาก็ living

พ่อแม่ก็คิดถึง เวลาก็ไม่รู้จะได้เที่ยวกันอีกกี่ครั้งไงก็เลยไปด้วย แต่พออยู่ด้วยกันก็มีแต่ความคาดหวังบ้าบอ เลยไม่รู้จะคิดยังไง เลยไม่อยากกลับบ้านเพราะมันมีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตแบบนี้ไงเสร็จแล้วจะไปเข้างานได้เงินให้พอใจอยู่หรอก เพราะพ่อแม่ก็รักเหมือนกันเลยอยากเอาใจ แต่แม่งเหนื่อย ถ้าไม่ทำเกมก็ได้เอาใจไปด้วยใช้ชีวิตปกติไปด้วยได้นานละ อยากตั้งใจทำเกม ทำเพลง แล้วเอาไปขายอาจจะได้เจอคนที่เค้าชอบสิ่งที่เราทำจริงๆมากกว่า เหนื่อย เซ็งชีวิต ปล.อีก 30 นาทีลบ ได้พิมพ์ค่อยใจเย็น