Tuesday, February 27, 2018

ได้ยินเสียงเพลงตัวเองจากตู้ Pump It Up แล้ว

ต่อเนื่องจาก http://5argon.blogspot.com/2017/10/blog-post.html

ไม่นานทาง Andamiro ก็ปล่อยคลิป patch trailer ออกมาครับ!









 อันนี้ที่เอาไปบอกเพื่อนใน Twitter ญี่ปุ่น เพราะ Twitter ไทยกับ Facebook คงไม่มีใครแคร์ 555




แล้วก็ก่อนวันคุณ Kikansha วาดภาพคู่ของตัวละครใน MV กับตัวละครไอคอนที่ใช้มานานที่เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อมาให้ XD


ในที่สุดเมื่อวานก็เป็นวันที่ว่าแล้ว ไปรอห้างเปิดตั้งแต่ 9 โมงครึ่งเลย เพิ่งได้รู้ว่าหน้าเดอะมอลงามมีอาหารเช้า






ไม่เคยมาเปิดห้างมาก่อน มีพนักงานยืนเรียงต้อนรับ.. คือผมแค่มาเล่นเกมครับ

และแล้วก็มาถึง! ตู้ maimai ยังเปิดไม่เสร็จเลยแต่ Pump เปิดเสร็จแล้ว



ไปวอร์มกับ DDR ก่อนเพราะกะว่าจะ sightread เพลงตัวเอง อยากให้ขาขยับได้เต็มที่





แต่ทว่า patch ยังไม่มา 555 ก็เลยเล่นๆนั่งๆเปิดคอมทำงานรออยู่แถวนั้น จนขาประจำ Pump It Up เริ่มมาก็เลยได้คุยกันครั้งแรกว่าปกติ patch มากี่โมง.. ไม่ได้พูดตรงๆว่าจะมารอเล่นเพลงตัวเองแต่คุยไปคุยมาเหมือนเขาจะรู้ว่าเรามาเล่น DDR บ่อยพอสมควร ไปๆมาๆก็ได้บอกละว่ามาตั้งแคมป์เล่นเพลงตัวเอง (เขาขอจับมือด้วย -///-) ได้คุยกันว่าแต่งเพลงยังไง ใช้เวลาเท่าไหร่ แล้วมีขั้นตอนยังไงบ้าง แล้วคิดไงกับ BGA (ฮา)


"เฮ่ย! unlock step ขึ้นบนเว็บแล้ว" ได้ยินจากเพื่อนๆ ก็เลยกดไปดู ปรากฏว่ามี D20 เงื่อนไขคือต้องได้ A D18 ก่อน.. ตอนนี้เริ่มกังวลแล้วว่าจะมี D15-16 ให้ sightread มั้ย เพราะปกติเล่นได้แค่นั้น 555



แน่นอนนั่นหมายความว่าตู้พร้อมอัพเดทแล้ว ก็เลยพากันไปรีเซ็ตตู้ใหม่กันเอง



ตอนตู้มาก็ได้ขอเลยว่า ขอคนแรกนะ!! ทั้งสองคนก็ยินดีให้เล่นเป็นคนแรก หยอดไป 2 เหรียญ แตะบัตรที่ได้ลายเซ็นจาก NIMGO คนทำโน้ตหลายๆเพลง กดซ้ายขวาหาเพลงตัวเองแล้วในที่สุดก็เจอ! ก็เลยถ่ายรูปคู่กันหน่อย (ปกติเป็นคนไม่ชอบหน้าตัวเองเลยไม่ค่อยอัพภาพขึ้นเน็ต แต่พอมีภาพขึ้นเน็ต ดันเป็นรูปคู่กับตู้เกม 555)


มาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้จะบ่ายและแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่รอคอย sightread​! ระดับ double ที่มีให้ปรากฏว่าโดดจาก D13 -> D18 เลยก็เลยเอาวะ.. D18 ก็เคยผ่านมาบางเพลงแล้ว (Selfishness, Idealized Romance) จังหวะที่เหยียบขึ้นไปบนแป้น จับ bar แล้วเห็นภาพ loading screen เป็นปกเพลงตัวเอง คงเป็นความรู้สึกที่อธิบายยากแต่ไม่มีวันลืม แต่มีเวลาชมมันไม่นานก็ต้องเตรียมรับมือกับโน้ต..


ผลก็เป็นอย่างที่เห็น ตาย 555 (เกมนี้ถ้าตายนอก rank mode จะไม่ตัดจบ แต่ result screen จะไม่มีดาวสีเหลืองขึ้นข้างบน เป็นตัวบอกว่าเคยพลังหมดมาแล้วจุดนึงระหว่างเล่น) แต่ก็ได้ score world record! แหงล่ะมาตั้งแคมป์เล่นคนแรก



ภาพนี้เป็นภาพที่ขอ ICEKUNGX ถ่ายก่อนเล่นเพราะเขากำลังจะตบคะแนนนี้ ขอเป็นที่ระลึกก่อน

ต่อจากนี้ไปลองเล่น S17 แต่ก็ตายเหมือนกัน (อ้าว)

ต่อมาก็นั่งดูเพื่อนๆทำ S เพลงตัวเองรวมทั้งเพลงอื่นๆในอัพเดทนี้กันอย่างรัวเร็ว (ส่วนตัวชอบ PICK ME เวอร์ชั่นผู้ชาย 555) ได้เห็นคนข้างหน้ากำลังเล่นเพลงตัวเองที่ออกมาจากลำโพงใหญ่ๆ เล่นเสร็จได้บ่นได้คุยกัน เหี้ย ท่อนนั้นท่อนนี้ ครอสไกลชิบหายย แต่เล่นครั้งแรกผ่านกันทุกคนทั้ง Single Double ผ่านกันหมดยกเว้นคนแต่ง 555

มันรู้สึกได้ว่าเพลงที่ทำมันมีความหมายกับคนอื่นขึ้นมาได้โดยมีเกมเป็นตัวกลาง เป็นเรื่องที่วิเศษนะครับ

ออแถมอีกนิด อันนี้ post page ตอนก่อนจะส่งเพลงที่อัดเกรียนๆเล่นๆ ไม่คิดว่ามันจะโอเคจริงๆ 555
---

เมื่อวานนี้เป้าหมายที่เคยคิดไว้เล่นๆตั้งแต่สมัยเริ่มแต่งเพลง (5-6 ปีที่แล้วตอนสมัยเรียนปี 3) ว่าถ้าได้มีเพลงในตู้อาร์เขตมันจะเป็นไง แต่ไม่ได้คิดจริงจังเท่าเป้าหมายอยากทำเพลงเหมือนคนแต่งเพลงในเกมดนตรีที่เล่นมา อยากทำเสียงให้เกมตัวเองได้ไม่ว่าจะเป็นเกมแนวไหน แล้วก็อยากมีเพลงในเกมดนตรีคนอื่นบ้าง (ซึ่ง VOEZ เป็นจุดแรกที่เป้าหมายนั้นสำเร็จ) คิดเล่นๆนิดเดียวแล้วลืมๆมันไป ตอนนั้นใครจะไปรู้ว่าจะมีโอกาสมาจริงแล้วได้จริงๆ (จริงๆนี่น่าจะเป็นงานแรกของโลกที่มี contest เพลงเกมตู้ ที่ไม่ได้จำกัดภูมิภาค เหมือน Sound Voltex ที่จำกัดแค่ญี่ปุ่นที่จัดมาหลายรอบแล้ว) ออแล้วก็ต้องขอบคุณเรียวที่ตอนนั้นชวนลองเล่นเกม PIU ด้วย ถ้าไม่ได้เริ่มเล่นจนติด คงไม่ได้สนใจงานประกวดนี้ แล้วคงไม่รู้ว่าเพลงแบบไหนถึงจะเหมาะกับเกมนี้

มัน epic มากเลยนะ

5-6 ปีมันนานเท่าระยะเวลา ป.ตรี และ ป.โทรวมกัน มันเป็นความยิ่งใหญ่ที่ไม่ต้องมีใครมากำหนดพิธีมา recognize ให้เรา เราเคยคิดว่าการเรียนป.ตรี ป.โท ลึกๆแล้วเราก็แค่วิ่งไปตามราง (อาจจะรางชีวิต) และแล้วมันก็ถึงเป้า แล้วมันก็มีพิธียิ่งใหญ่แล้วพ่อแม่ญาติๆก็มาดีใจกันเต็มเลย (ตอน ป.โท พ่อแม่อุตส่าห์บินมาญี่ปุ่นด้วยแหละ) เราก็ดีใจนะที่เรียนจบ แต่ความรู้สึกส่วนใหญ่มันเป็นประมาณว่า "ในที่สุดก็มาถึงฝั่งฝันแล้ว เรียนจบแล้ว!! เย้!" แต่ในคำว่า "ในที่สุด" ที่ว่า มันอยู่ในความหมายแบบในเชิง "เวลา" ซะส่วนใหญ่ ส่วน "เย้!" ก็มีอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ว่า "Finally, no more of this!" พอจะเข้าใจมั้ยครับ

แต่เมื่อวานนี้ ความรู้สึกมันเป็นแบบ "ในที่สุดเราก็ทำได้แล้ว..." ในที่สุด ในความหมายนี้ มันอยู่บนรางที่เราสร้างขึ้นมาเอง ที่ห้อง common room ตอนนั้นเราแค่นั่งอยู่บนเก้าอี้โง่ๆแล้วก็ตัดสินใจจะลองศึกษาเรื่องเสียงเอง ตอนใน lab GIVE ตอนนั้นที่เรานั่งเรียนคลิปวิธีใช้โปรแกรม DAW ข้ามวันข้ามคืน

เราจะเลิกมันตอนไหนก็เรื่องของเรา แต่ก็กัดฟันลุยต่อมาเรื่อยๆทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในอนาคตจะมีงานประกวดอะไรนี่ ไม่เหมือนเรียนปกติที่เรารู้ว่าอนาคตจะมีเรียนจบรออยู่ มีจำนวนปีค่อยกำหนดอีกต่างหาก จนโอกาสประกวดมันโผล่มาแล้วก็ทำได้ (อย่างไม่น่าเชื่อ เอาจริงๆรู้สึกว่า Twist of Fate น่าจะได้ที่ 1 ชอบมาก)

เป็น "Finally, I did it!" ของจริง หลายๆครั้งที่เราได้รู้สึก "I did it!" เราไม่เคยคิดถึงด้านนี้มาก่อน แต่มันมีอะไรบางอย่างปนอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่นตอนมัธยม ตอนเราทำการบ้านเสร็จก็รู้สึกว่าทำได้แล้ว แต่ก็เพราะ อ.​ สั่งมานี่นา ตอนเกรดถึงเหรียญเงินก็รู้สึกว่าทำได้แล้ว แต่จริงๆก็ไม่ได้ตั้งใจจะเอาเท่าไหร่ (แต่พ่อแม่ดีใจก็โอเค) ตอนเปเปอร์ป.โทผ่านก็รู้สึกว่าทำได้แล้ว แต่มันก็ต้องได้แล้วล่ะไม่งั้นคงจบไม่ทันเปลี่ยนมาตั้ง 3-4 หัวข้อ จนมาลงที่ middle ground ของที่เราอยากเรียนกับที่ อ. แลปมีความเชี่ยวชาญ หัวข้อเละหมดเลย

จากวันประกาศผลนั่นก็เหมือนวันที่ประกาศว่าเรามีสิทธิ์จบแล้ว จนเมื่อวานนี้ที่ก้าวขึ้นไปบนตู้เกมยืนอยู่ต่อหน้าเพลงตัวเอง มันเหมือนการก้าวขึ้นไปรับปริญญา ซึ่งมีคนให้ปริญญาเป็นตู้เกม กับคนร่วมงานเป็นขาประจำอีก 2 คน 5555 (ยิ่งมารอเปิดห้างแต่เช้า ยิ่งบรรยากาศเหมือนตอนต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมางานปริญญา) ดูตลกดีนะ แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าความรู้สึกในใจตอนนั้นมันตื้นตันมาก มากกว่ารับเกียรติบัตรหรือปริญญาไหนๆที่เคยสัมผัสมา ตอนนี้นั่งพิมพ์นี่อยู่บนเตียง ยังขนลุกอยู่เลย


หลังจากงานพิธีที่ว่า ก็มาทำงานร้านกาแฟร้านเดิม ฉลองต่อด้วยการสั่งข้าวที่ร้านกาแฟที่นั่งทำงาน (นานๆสั่งที แพงนิดหน่อย) แล้วก็ซื้อสปาเก็ตตี้ชีสอันใหม่ของเซเว่น แล้วก็มานั่งพักผ่อนมอนฮันกับเพื่อน เล่นเพลินแต่ตายบ่อยจนสุดท้ายไม่ได้กินสปาเก็ตตี้ชีส ปิดวันอย่างสวยงาม อ้าาา รู้สึกได้เลยว่าได้ทำอะไรที่ทำให้ถึงตายพรุ่งนี้ก็เสียดายชีวิตน้อยลง ได้ไปอีก 1 อย่าง โอเคจบ

Edit : ผ่านมาจะปีนึงละตอนนี้ 15 สิงหา 2018.. เพิ่งไปรู้จาก Jehezukiel ว่าได้เกียรติบัตร ก็เลยลองไปถามคุณ macnom มา เขาบอกว่าส่งให้ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว ก็เลยไปถามคอนโดต่อ ปรากฏว่าคอนโดเก็บไว้เฉย ไม่ยอมเอามาบอก 5555 เอามาเปิดถ่ายรูปคู่กับโปรเจค และโต๊ะแต่งเพลงนี้ที่แต่งไปกระทืบเท้านึกโน้ตไปเมื่อปีที่แล้ว




No comments:

Post a Comment