วันนี้จะมาบ่นอีเรื่องวิจัยนี่แหละ
ก่อนอื่นสิ่งที่ทำให้โยงมาพิมพ์เรื่องนี้ก็คือสอง JLPT อันแสนสำคัญในวันอาทิตย์นี้ มูลค่า 5000 เยนที่จ่ายไปเมื่อ 3 เดือนก่อน.. ก่อนอื่นท้าวความก่อนว่ามันเป็น "สิ่งที่อยากทำ" อันนึงของเราจริงๆที่สำคัญมาก หลักๆตอนนี้ก็มีสามอัน
1. ทำเกม Duel Otters กับทำมิวสิคเกมใหม่ต่อ
2. แต่งเพลง ทำเพลง BOFU2016 / SF2016 ต่อ
3. ฝึกภาษาญี่ปุ่น ชีวิตนี้อยากได้ระดับเดียวกับภาษาอังกฤษที่เป็นอยู่ตอนนี้คือเกือบ Native คุยได้สบาย
ทุกอย่างเป็นอันต้องพังทลาย ไม่พังหรอกแต่ไม่ได้ทำมากกว่าซึ่งก็เท่ากับพังนั่นแหละเพราะรู้ดีว่าอะไรที่ผลัดวันไปเรื่อยๆมันก็ไม่เกิดขึ้นหรอกถ้าไม่ทำให้มันเกิดขึ้น (คติของ บ. Exceed7 ที่ตั้งขึ้นมาก็เลยเป็น Let's make something happen!)
เพราะ ป.โท กับแลปอย่างเดียว วันที่ผ่านมานี่แทบไม่เป็นอันนอน ประชุมก็ทุกสัปดาห์โดนด่าทุกสัปดาห์ว่าเอาเวลาไปทำอะไรอยู่ทำไมไม่มี progress ซะที ก็ทำแต่แลปนี่แหละแต่แก้บัคอยู่ อ. ก็ไม่เข้าใจเพราะการแก้บัคบางทีมันโชว์ progress ไม่ได้ แล้วมันโชว์ได้ที่ไหนว่าวันจันทร์พยายามแก้ตรงนั้น อังคารแก้ตรงนี้ โดยที่ยังไม่หลุดจาก Segmentation Fault เลยด้วยซ้ำ แล้วมันจะโชว์ได้ไงเนี่ย
กลับมาต่อที่ JLPT ก็เลย... คิดว่าจะไม่ไปสอบแล้ว จริงๆตั้งแต่นานแล้วมาถึงเมื่อวาน ก็คิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดว่าต้องลอง ต้องลอง ทั้งๆที่มือนั่งโปรแกรมไอ้แลป ป.โท อยู่เนี่ยไม่ได้ฝึกภาษาญี่ปุ่นเตรียมจะไปสอบซักนิด ทำแลปไปในหัวก็คิดแต่ อยากเรียนญี่ปุ่นๆๆๆ ตลอด แต่เวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ 2 สัปดาห์...3 เดือน ก็มีแต่แลปๆๆ เวลาที่อยากเรียนก็ต้องทำแลป เสาร์อาทิตย์ก็ยังต้องทำแลป เกมก็นิ่ง เพลงก็นิ่ง ญี่ปุ่นก็นิ่งหมด แต่ต้องมาทำอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้เป็นเป้าหมายชีวิตเลย คือรู้สึกเสียเวลามากๆ คือรู้สึกว่า "ไม่รู้จะทำไปทำไม" อย่างแท้จริง
วันแล้ววันเล่าผ่านไป ได้แค่ฝึกในส้วมกับตอนกินข้าวในโรงอาหารที่ต้องออกมานั่งแยกคนเดียวทุกวัน (เพราะถ้างมมือถือระหว่างกินข้าวกับกลุ่มใหญ่เดี๋ยวก็โดนมองเป็นคนติดโซเชียลอีก จริงๆ Twitter ก็โซเชียลแหละแต่ฝึกญี่ปุ่นอยู่ไง) คือมีเวลาแค่นั้นจริงๆ ถ้าจะเอาเวลาอีกก็เหลือเวลานอนกับเวลาพักผ่อน ก็คือเอาไว้เล่นเกมกับออกไปกินอะไรข้างนอก ถ้าคิดว่าจะตัดเวลาพักผ่อนมาเรียนญี่ปุ่นก็ได้ไม่ใช่เหรอ คือมันไม่ได้หรอก บ้าตายพอดี สิ่งที่อยากทำมันไม่ได้อยู่หมวดเดียวกับพักผ่อนเลย
คิดๆอยู่ว่าเรียนจบแล้วจะต้องจัดชีวิตให้ไม่ว่าทำอะไรก็ contribute ไปในทางสิ่งที่อยากทำในชีวิตให้ได้ คือแม้แต่ไปสมัครเป็นพนักงาน SCB ที่ไม่เกี่ยวกับชีวิตเท่าไหร่ยังเกี่ยวกว่าเรียนโทเก็บใบนี่เลยเพราะได้เงินเอามาสานฝันต่อได้ บวกกับมีเวลาว่างช่วงเย็นไว้สานฝัน ก็คือเกี่ยวนั่นแหละ เทียบกับไอ้แลปเนี่ย แม้แต่เวลาว่างช่วงเย็นยังไม่มีเลย ตื่นนอนยันเที่ยงคืนมีแต่แลปๆๆ แล้ว distraction เยอะมาก เมลถล่มมาทุกวัน มีแค่บางอันสำคัญแล้วถ้าเผลอมองข้ามโดนด่า เดี๋ยวก็มีตติ้งแลปทุกสัปดาห์ เดี๋ยวก็ต้องนัดคุยกับ อ. อีก
มองไปบนกำแพง.. เห็นปฎิทิน "อ่านนิยายญี่ปุ่นกับการ์ตูนให้จบอีก 3 เล่มก่อนวันกินเนื้อย่างกับเพื่อนญี่ปุ่นที่ไม่เคยแม้แต่เห็นหน้ากันมาก่อน" (เดี๋ยวโอกาสหน้าจะมาเขียนเรื่องนี้ สุดท้ายก็ไปมาแล้ว สนุกดี) ซึ่งเป็นวันที่ 14 มีนา ถึง 24 เมษา คือปฎิทินนี้ เขียนไว้ว่าวันไหนควรจะได้หน้าไหนของเล่มไหน ซึ่งทำตามได้ถึงแค่วันที่ 18 มีนาเท่านั้น แล้วเลขหน้ามันก็ค่อยๆห่างไกลออกไปๆอย่างช่วยไม่ได้ทั้งๆที่อยากอ่านใจจะขาดดันต้องมาทำแลปอะไรไม่รู้ แล้วก็ต้องเลิกทำตามแต่ก็ยังติดมันไว้ดูให้ทรมานเล่นบนกำแพงห้อง สุดท้ายวันที่ 24 เมษาก็ไปกินเนื้อย่างโดยที่ความรู้เท่าๆเดิม
จาก 24 เมษาก็มีอีกเดดไลน์นึงให้พยายามก็คือ 3 กรกฎาที่จะถึงอีกสองวันนี่แหละ วันสอบ JLPT ไง หลังจากวันเนื้อย่างก็คิดเหมือนเดิมว่าเออ เอาใหม่อีกทีคงจะทำได้แหละเราอีกสองเดือนกว่าๆ สู้ๆ แล้วสุดท้ายก็เหมือนเดิม แลปๆๆ จนไม่เป็นอันตั้งใจเรียนเลย ความรู้สึกของสัปดาห์ล่าสุด (เหลืออีก 7 วันถึงวันสอบ) นี่อยากลาแลปทั้งสัปดาห์มาฝึกญี่ปุ่นฟินๆ 24 ชม. เลยด้วยซ้ำ แล้วก็โดนไอ้ "ความรับผิดชอบ" นี่แหละดึงตัวไปแลป (แม่สอนมาบ่อย) สุดท้ายก็เดินไปแลปเซ็งๆเพื่อกลับออกมาอีกทีตอนตี 1 ตี 2 แล้วก็ไม่มีเวลาทำอะไรอีกหลังเล่นเกมกับเพื่อนนิดหน่อยแล้วก็ต้องนอนแล้วก็ตื่นมาเหมือนเดิม
มาจนถึงวันนี้ตื่นมา 7 โมงเนี่ย เหมือนความจริงที่หลบไม่ได้อีกต่อไปมันก็มาแล้วว่า ยกเลิกสอบ JLPT เถอะ คือส่วนตัวไม่ได้อยากได้หลักฐานใบประกาศ N2 อะไรนั่นอยู่แล้วไงเพราะไม่ได้ใช้ ที่เรียนญี่ปุ่นเพราะอยากเก่งจะได้แปลเกมตัวเองจะได้อ่านการ์ตูน ไม่ได้จะเอาไปสมัครงานอะไร ถามว่าแล้วไม่อยากรู้คะแนนเหรอ คืออยาก แต่ไม่อยากรู้คะแนนที่มาจากการเดา 90% แบบนั้นไงมันไม่มีความหมาย เวลาวันอาทิตย์เอาไปทำแลปที่แสนเกลียดยังจะดีกว่าไปทำอะไรที่ไม่มีความหมายแบบนั้น สอบนี่ลงไปเพื่อให้มีเป้าหมายพยายามเฉยๆ ส่วนเงินก็ไม่ได้เสียดายหรอก แค่เวลาวันอาทิตย์ที่จะต้องใช้เดินทางไปสอบแล้วกลับมานี่ยังเสียดายกว่า ไม่ไปยังจะดีกว่า
แต่การทำโทนี่ก็เกี่ยวที่ทำให้มีโอกาสมาญี่ปุ่นนั่นแหละ เนื้อย่างก็คงเป็นผลจากการที่ได้เรียนโทนี่เหมือนกัน แต่ตอนมาทำแลปใช้กรรมนี่ยังไงมันก็รู้สึกไม่ดีเลยเพราะมันไม่เกี่ยวกับชีวิตซักนิดเดียวแถมทำให้อันที่จะเกี่ยวอย่างเนื้อย่างเละไปด้วยอีก (เกมก็เละ เพลงก็เละ ฝึกเล่นเบสก็ไม่ได้เริ่ม เละหมด)
มาคิดๆดูมันก็สอนเรานะ เวลาที่มีความหมายกับชีวิตนี่มันหยุดลงตั้งแต่ 18 มีนาคมมาจนถึงตอนนี้แล้วเหรอ ที่เราไม่ได้ทำอะไร "ให้มันเดินต่อไป" แต่แค่แก่ลงๆทุกวันเฉยๆ (น้ำหนักขึ้น 5 กิโลจากปีที่แล้วด้วยแน่ะจากวัดผลสุขภาพ) ....หรือมันอาจจะหยุดลงก่อนหน้านั้นมาอีกนานแล้วก็ไม่รู้
No comments:
Post a Comment