วันสุดท้ายก็ไป Co-working space ที่ Shibuya ที่เล็งไว้
Ants-office (ありんこオフィス) (http://www.ants-office.com) ที่นี่แนะนำเป็นอย่างมากกกก! เพราะแพคเกจถูก ราคาดี มีแยก daytime, night time แล้วก็ไม่แพงเท่าที่แรก เปิดเพลงเบาๆ แต่เปิด EDM อีห่า เปิดเบาๆทำไมไม่เปิด pop, bossa นี่ Tremor มาเลย 555
แล้วก็เครื่องดื่มฟรีไม่อั้น! มีน้ำเหมือนในร้านอาหารเลย calpis, ginger ale, กาแฟ โกโก้ มอคค่า ร้อนเย็น
นี่นั่งกินจนจะเป็นเบาหวาน
แล้วก็เลยได้ให้น้องถ่านหินออกโรงครั้งแรก ตั้งแต่เที่ยงๆถึง 1 ทุ่มก็ร่างได้มาเท่านี้ พึงพอใจกับความละเอียด 8192 มาก
จากนั้นผมก็ออกมา Narita ตามแผนยกเลิกโรงแรมมานอนสนามบิน ซึ่งก็ได้มาสำรวจที่นอนกับปลั๊กสมใจอยาก (มาครั้งต่อไปพุ่งไปถูกที่แน่ๆ) ไปอ่านรีวิวละเอียดได้ตามนี้เลย
พรุ่งนี้หวังว่าจะตื่นทัน 9 โมง... ต้องทันสิ ไปนอนดีกว่าาา
Thursday, May 4, 2017
ทริปญี่ปุ่นครึ่งหลัง - ลาก่อน เฉาก๊วย (2/3)
วันนี้ (จริงๆเขียน blog วันนึงให้หลัง แต่จะเขียนวันนี้ให้หมายถึงเมื่อวานของวันนี้ งงมั้ย 55) จริงๆว่าจะไป co working space ที่ Shibuya
แต่ที่คิดๆมานาน... ก็คือ จะซื้อ tablet วาดรูปใหม่ดีมั้ย
คือคนมาญี่ปุ่น จะคิดแต่ฝากซื้อรองเท้า Onitsuka บ้าง Anello บ้าง เครื่องสำอางค์บ้าง แต่อย่างนึงที่คนคิดไม่ถึงคือ Wacom ราคาถูกกว่าไทยมากครับ (16000 บาท -> 12000 บาท)
แล้วก็เกิดการเปลี่ยนแผนครั้งใหญ่ เพราะอีก 2 วันที่กลับเที่ยวบินมัน 9 โมงเช้า แล้ววันนี้ตื่น 7 โมง ถ้าวันสุดท้ายตื่นแบบนี้ต้องชิบหายแน่นอน
ก็เลยเกิดแผน extreme ขึ้นมาอีกอย่างคือ cancel โรงแรมคืนสุดท้าย แล้วลองไปนอนสนามบิน Narita กันดีกว่า!
สมัยเรียนนอน Kansai มาหลายคืนทุกครั้งที่กลับมาญี่ปุ่นจากไทย (Air Asia X มันถึง 5 ทุ่ม ออกไปไหนเท่ากับตาย) จนรู้ตำแหน่งโซฟา เก้าอี้ และปลั๊กเทพแล้ว ก็คิดเหมือนกันว่าอยากรู้ว่า Narita จะเป็นไงบ้าง
โอเคเลยตกลงตามนั้น วันนี้เลยเปลี่ยนจาก co working เป็นตัดสินใจเรื่อง tablet ซะที เพราะญี่ปุ่นคงไม่ได้มาง่ายๆอีก
จริงๆก่อนมาไม่ได้คิดจะซื้อเลย แต่เพิ่งมานึกออกว่าประเทศนี้ Wacom ถูกนี่นา..
Tuesday, May 2, 2017
ทริปญี่ปุ่นครึ่งหลัง - Co-working adventure (1/3)
ที่ต้องแบ่งเป็นครึ่งหลัง เพราะจริงๆทริปว่าจะจบลงในวันที่ 1 แล้วกลับวันที่ 2 นั่นเอง
แต่ตอนซื้อตั๋วปรากฏว่าตั๋วกลับวันที่ 5 ค่อนข้างถูกกว่า...
ก็เลยปิ๊งไอเดีย ใช้ ability เฉพาะของ Freelance Game Dev นั่นคือ "ทำงานที่ไหนก็เหมือนๆกันถ้ามีปลั๊กกับเน็ต"
เกิดเป็นแผน "อยู่ญี่ปุ่นต่อ แต่ใช้ชีวิตเหมือนอยู่ไทย" ดูซักครั้งในชีวิตซิ! ก็คือหาที่ทำงาน ปกติที่ไทยไปคาเฟ่ไม่ก็อยู่ห้องไรงี้ นี่ก็น่าจะทำแบบเดียวกันได้ แค่ว่าอาหารเที่ยงเย็นมีราเมงให้หาชิม แล้วก็ตกดึกเล่นเกมที่ไม่มีที่ไทยได้~! (ต้องห้ามใจไว้ด้วย ตาละ 100 เยนดูถูกแสนถูกแต่แปลงเป็นไทยแล้วจริงๆเท่ากัน)
สำคัญกว่าคือตังจะหมดแล้ว ไปหาร่อนเที่ยวไม่ได้ ซื้อเพลงมามากเกินไปหน่อย 555 ตอนแรกไม่คิดเลยนะว่าแลกมา 50000 เยนมันจะหมดได้ - - จนในที่สุดได้ใช้สูตรโกงกดธนาคารญี่ปุ่นที่เหลือเงินเก็บทิ้งไว้ 3 แสนเยน ที่ว่าจะเก็บไว้โอนให้นักแต่งเพลงญี่ปุ่น
นี่ก็เลยคิดจะไปลองหา co-working space ดูว่ามันจะเป็นไง (จากที่อยู่ญี่ปุ่นมา ประเทศนี้หาปลั๊กยากมากๆ คาเฟ่แทบไม่มีปลั๊ก Starbucks ยังแทบไม่มีปลั๊กเลย ปลั๊กหาง่ายสุดคือในส้วมที่มีที่ฉีดตูดอัตโนมัติ แล้วถอดปลั๊กส้วมมาเสียบคอม เคยค้างคืนในส้วมมาแล้ว 5555)
ได้ข้อมูลมาจาก https://tokyocheapo.com/business/drop-in-coworking-spaces-tokyo/ ก็เลยสุ่มเลือกมา ก็ว่าจะลองไปที่ Ginza แหล่งร้านอาหารแพงห้างหรู
หรูจนไม่มีร้านเล่นเกมกับร้านข้าวหน้าเนื้อโง่ๆเลย ลำบากมาก 555
อาหารเช้า แน่นอนไหนๆมาเที่ยวคนเดียวแล้วก็อยากทำสิ่งที่ทำเมื่อมากับเพื่อนไม่ได้... คือกินโซบะ
ถ้ามากับเพื่อนเกิน 4 คน โอกาสน้อยมากที่จะไม่มีซักคนบ่นว่าอาหารบ้าอะไรไม่มีเนื้อ มีแต่แป้งกับน้ำ ไปร้านอื่นเหอะ 555 แต่จะบอกว่าเราชอบมาก แล้วมันมีไม่น้อยด้วยนะ เช่นอุด้งเต้าหู้หวาน โซบะเปล่าๆ หรือโซบะผักเทมปุระที่เห็นในภาพ
จากเว็บบอกให้ไปชั้น 2 ของตึกโง่ๆนี้ ซึ่งป้ายยังไม่มีเลยว่าชั้น 2 คืออะไร
ขึ้นมาชั้น 2 เจอแต่ทางเดินแคบๆกับห้องน้ำนึกว่ามาผิดมาเจอชั้นว่าง
..แต่ที่ไหนได้ในประตูไม้นั่นมันเป็น co-working space 555
ได้เครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว แต่ก็ไม่ค่อยฟรีหรอกเพราะค่าอยู่วันนึงตั้ง 2000 เยน
ราคา range อยู่ที่ 1000-2000 เยน เลยเลือกที่ๆแพงๆก่อน วันหลังว่าจะลองเข้าที่ถูกๆบ้าง
หลังจากประกาศกร้าวใน Twitter ว่าจะทำเกม เวลาผ่านไปจากเที่ยงถึง 1 ทุ่ม เพลงเสร็จซะงั้น 555 เกมไม่ได้แตะ 55 คือตอนกำลังจะเริ่มทำเกม อยู่ๆก็กังวลว่าเพลงที่เดดไลน์สิ้นเดือนจะทันมั้ยเลยเปิดดูเล่นๆ แล้วไอเดียก็มาซะงั้น Dynamix น่าจะรอดไป 1 เพลง.. เพลงนี้จริงๆร่างไว้ตั้งแต่สมัยเรียน ป โท ชื่อเพลง Antithesis ชื่อดูจะเท่นะ แต่ความหมายจริงๆคือ กูไม่อยากทำ Thesis แล้วว้อย
โดยรวมแล้ว ร้านเฉยๆ เพลงไม่มี ไม่เอะอะ แต่ ambient กลิ่น ราคา บรรยากาศ แพ้ร้าน NKNO ข้ามเมเจอร์ไปเยอะ (ที่สำคัญ NKNO 60 บาท นี่ 2000 เยน) รวมแล้วถ้าแค่วันแรก กลับไทยน่าจะดีกว่า เพราะออกมาจากร้านก็มืดละ เหอๆ
กินราเมงตามสัญญาตัวเอง
วันนี้ไอ้พูมกลับไทยแล้วเลยอดอยู่ห้องมันฟรีต่อ ก็เลยมาหาที่พึ่งที่คุ้นเคย โรงแรมแคปซูล Asakuka ของแท้ 2200 เยนที่ค้นพบกับไอ้โอเมื่อฝึกงาน 5 ปีก่อน!! จากวันนั้นมา มาโตเกียวเมื่อไหร่ที่พึ่งทางกายก็เป็นที่นี่เสมอมา ไม่มีอะไรถูกกว่านี้แล้ว แต่ห้ามทิ้งกระเป๋าไว้นะเขาจะทำความสะอาดห้อง ต้อง check out ทุกวันแล้ว check in หลัง 4 โมงเย็น
ที่บอกว่าของแท้เพราะส่วนมากแคปซูลเดี๋ยวนี้แพงกว่าห้อง guest house อีก มันกลายเป็นของหรูของนักท่องเที่ยวไปละ หาแคปซูลที่แปลว่าของประหยัดแทบไม่ได้ รู้จักแค่ที่นี่ที่เดียวนี้แหละ
แล้วก็ เน็ตแรง! ทำงานต่อในรูนี้ยังได้เลย
พรุ่งนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะไปไหน จริงๆว่าจะออกจากรูไปหาเกมเล่นแต่เข้ามาแล้วใจสงบจนขี้เกียจละเลยมาเขียน blog แทน (กลายเป็น 1 วันที่ขาดทุนกว่าอยู่ไทยอย่างแท้จริง ถ้าไม่นับราเมงกับโซบะ)
แล้วก็ จริงๆคนที่ทำอะไรแบบนี้เขาเรียกว่า digital nomad (https://en.wikipedia.org/wiki/Digital_nomad) ก็อยากลองมี lifestyle แบบนั้นซักครั้งในชีวิตแบบเที่ยวไปทำงานไป แต่เอาจริงๆต้องรวยก่อน 55 แล้วก็ทำเกมรู้สึกตัวอีกทีจากเช้าก็เป็น 4 ทุ่มแล้วไม่รู้จะได้เที่ยวได้ยังไง ลองชิมแบบปลอมๆในช่วง 3 วันนี้ไปก่อนก็แล้วกัน 555
แต่ตอนซื้อตั๋วปรากฏว่าตั๋วกลับวันที่ 5 ค่อนข้างถูกกว่า...
ก็เลยปิ๊งไอเดีย ใช้ ability เฉพาะของ Freelance Game Dev นั่นคือ "ทำงานที่ไหนก็เหมือนๆกันถ้ามีปลั๊กกับเน็ต"
เกิดเป็นแผน "อยู่ญี่ปุ่นต่อ แต่ใช้ชีวิตเหมือนอยู่ไทย" ดูซักครั้งในชีวิตซิ! ก็คือหาที่ทำงาน ปกติที่ไทยไปคาเฟ่ไม่ก็อยู่ห้องไรงี้ นี่ก็น่าจะทำแบบเดียวกันได้ แค่ว่าอาหารเที่ยงเย็นมีราเมงให้หาชิม แล้วก็ตกดึกเล่นเกมที่ไม่มีที่ไทยได้~! (ต้องห้ามใจไว้ด้วย ตาละ 100 เยนดูถูกแสนถูกแต่แปลงเป็นไทยแล้วจริงๆเท่ากัน)
สำคัญกว่าคือตังจะหมดแล้ว ไปหาร่อนเที่ยวไม่ได้ ซื้อเพลงมามากเกินไปหน่อย 555 ตอนแรกไม่คิดเลยนะว่าแลกมา 50000 เยนมันจะหมดได้ - - จนในที่สุดได้ใช้สูตรโกงกดธนาคารญี่ปุ่นที่เหลือเงินเก็บทิ้งไว้ 3 แสนเยน ที่ว่าจะเก็บไว้โอนให้นักแต่งเพลงญี่ปุ่น
นี่ก็เลยคิดจะไปลองหา co-working space ดูว่ามันจะเป็นไง (จากที่อยู่ญี่ปุ่นมา ประเทศนี้หาปลั๊กยากมากๆ คาเฟ่แทบไม่มีปลั๊ก Starbucks ยังแทบไม่มีปลั๊กเลย ปลั๊กหาง่ายสุดคือในส้วมที่มีที่ฉีดตูดอัตโนมัติ แล้วถอดปลั๊กส้วมมาเสียบคอม เคยค้างคืนในส้วมมาแล้ว 5555)
ได้ข้อมูลมาจาก https://tokyocheapo.com/business/drop-in-coworking-spaces-tokyo/ ก็เลยสุ่มเลือกมา ก็ว่าจะลองไปที่ Ginza แหล่งร้านอาหารแพงห้างหรู
หรูจนไม่มีร้านเล่นเกมกับร้านข้าวหน้าเนื้อโง่ๆเลย ลำบากมาก 555
อาหารเช้า แน่นอนไหนๆมาเที่ยวคนเดียวแล้วก็อยากทำสิ่งที่ทำเมื่อมากับเพื่อนไม่ได้... คือกินโซบะ
ถ้ามากับเพื่อนเกิน 4 คน โอกาสน้อยมากที่จะไม่มีซักคนบ่นว่าอาหารบ้าอะไรไม่มีเนื้อ มีแต่แป้งกับน้ำ ไปร้านอื่นเหอะ 555 แต่จะบอกว่าเราชอบมาก แล้วมันมีไม่น้อยด้วยนะ เช่นอุด้งเต้าหู้หวาน โซบะเปล่าๆ หรือโซบะผักเทมปุระที่เห็นในภาพ
จากเว็บบอกให้ไปชั้น 2 ของตึกโง่ๆนี้ ซึ่งป้ายยังไม่มีเลยว่าชั้น 2 คืออะไร
ขึ้นมาชั้น 2 เจอแต่ทางเดินแคบๆกับห้องน้ำนึกว่ามาผิดมาเจอชั้นว่าง
..แต่ที่ไหนได้ในประตูไม้นั่นมันเป็น co-working space 555
ได้เครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว แต่ก็ไม่ค่อยฟรีหรอกเพราะค่าอยู่วันนึงตั้ง 2000 เยน
ราคา range อยู่ที่ 1000-2000 เยน เลยเลือกที่ๆแพงๆก่อน วันหลังว่าจะลองเข้าที่ถูกๆบ้าง
หลังจากประกาศกร้าวใน Twitter ว่าจะทำเกม เวลาผ่านไปจากเที่ยงถึง 1 ทุ่ม เพลงเสร็จซะงั้น 555 เกมไม่ได้แตะ 55 คือตอนกำลังจะเริ่มทำเกม อยู่ๆก็กังวลว่าเพลงที่เดดไลน์สิ้นเดือนจะทันมั้ยเลยเปิดดูเล่นๆ แล้วไอเดียก็มาซะงั้น Dynamix น่าจะรอดไป 1 เพลง.. เพลงนี้จริงๆร่างไว้ตั้งแต่สมัยเรียน ป โท ชื่อเพลง Antithesis ชื่อดูจะเท่นะ แต่ความหมายจริงๆคือ กูไม่อยากทำ Thesis แล้วว้อย
โดยรวมแล้ว ร้านเฉยๆ เพลงไม่มี ไม่เอะอะ แต่ ambient กลิ่น ราคา บรรยากาศ แพ้ร้าน NKNO ข้ามเมเจอร์ไปเยอะ (ที่สำคัญ NKNO 60 บาท นี่ 2000 เยน) รวมแล้วถ้าแค่วันแรก กลับไทยน่าจะดีกว่า เพราะออกมาจากร้านก็มืดละ เหอๆ
กินราเมงตามสัญญาตัวเอง
วันนี้ไอ้พูมกลับไทยแล้วเลยอดอยู่ห้องมันฟรีต่อ ก็เลยมาหาที่พึ่งที่คุ้นเคย โรงแรมแคปซูล Asakuka ของแท้ 2200 เยนที่ค้นพบกับไอ้โอเมื่อฝึกงาน 5 ปีก่อน!! จากวันนั้นมา มาโตเกียวเมื่อไหร่ที่พึ่งทางกายก็เป็นที่นี่เสมอมา ไม่มีอะไรถูกกว่านี้แล้ว แต่ห้ามทิ้งกระเป๋าไว้นะเขาจะทำความสะอาดห้อง ต้อง check out ทุกวันแล้ว check in หลัง 4 โมงเย็น
ที่บอกว่าของแท้เพราะส่วนมากแคปซูลเดี๋ยวนี้แพงกว่าห้อง guest house อีก มันกลายเป็นของหรูของนักท่องเที่ยวไปละ หาแคปซูลที่แปลว่าของประหยัดแทบไม่ได้ รู้จักแค่ที่นี่ที่เดียวนี้แหละ
แล้วก็ เน็ตแรง! ทำงานต่อในรูนี้ยังได้เลย
พรุ่งนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะไปไหน จริงๆว่าจะออกจากรูไปหาเกมเล่นแต่เข้ามาแล้วใจสงบจนขี้เกียจละเลยมาเขียน blog แทน (กลายเป็น 1 วันที่ขาดทุนกว่าอยู่ไทยอย่างแท้จริง ถ้าไม่นับราเมงกับโซบะ)
แล้วก็ จริงๆคนที่ทำอะไรแบบนี้เขาเรียกว่า digital nomad (https://en.wikipedia.org/wiki/Digital_nomad) ก็อยากลองมี lifestyle แบบนั้นซักครั้งในชีวิตแบบเที่ยวไปทำงานไป แต่เอาจริงๆต้องรวยก่อน 55 แล้วก็ทำเกมรู้สึกตัวอีกทีจากเช้าก็เป็น 4 ทุ่มแล้วไม่รู้จะได้เที่ยวได้ยังไง ลองชิมแบบปลอมๆในช่วง 3 วันนี้ไปก่อนก็แล้วกัน 555
Subscribe to:
Posts (Atom)