Sunday, April 12, 2015

เล่นเกม

วันนี้ (ตะกี้นี้) ผมเล่นเกมครับ (!)

ถ้าเป็นสองสามปีก่อนหรือมากกว่านั้นคงจะไม่แปลกอะไรเลย แต่ตะกี้ที่เปิด Left 4 Dead 2 ขึ้นมาเล่น ถึงได้รู้สึกว่าการเล่นเกมนี่มันสนุกจริงๆนะ (ยิ่งตอนนี้มีคอมแรงแล้ว)

ถ้าเรียบเรียง ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี เอาเป็นว่า เอาแบบไม่เรียบเรียงดีกว่า ตามลำดับเลย

ตอนนี้มีสิ่งที่ต้องทำเดิมคือ
- Duel Otters v1.4 ต้องให้ทันก่อนงาน Unite ที่จะบินกลับไปไทย เผื่อได้โชว์ในงานจะได้ดีๆ
- หมายความว่าต้องอัดเสียงตัวชาย
- ต้องตัดต่อเสียงตัวหญิง
- ระบบ UI
- สมัครสอบ JLPT ไปแล้ว อีกสองสามเดือนเอง ต้องรีบอ่าน สมัคร N3 ไปทั้งๆที่ความรู้ยังไม่ได้เฉียด N5 เลย (ลองท้าทายตัวเอง)
- แลปจันทร์นี้ต้อง user test ไม่รู้จะจบสิ้นวันไหน
- เทอมเพิ่งเปิด ตารางเรียนเทอมนี้เยอะชิบ หมดวันทุกวัน
- เพลงต้องแต่งบ้างแล้วไม่งั้นที่ตั้งเป้าไว้ว่าปีนี้จะออกอัลบั้มคงเป็นความฝัน
- วาดภาพลงเพจตัวนากซักหน่อย เดี๋ยวอนาคตที่อยากไปนั่งขายของทำมือด้วยแคแรคเตอร์ของตัวเองจะเป็นแค่ความฝัน
- ของที่จะทำลง Asset Store ควรทำให้เสร็จแล้วเอาลงไปขายซะ
- ฝึก Amazon Web Service ซะทีเพื่อที่จะได้ทำ Duel Otters 2.0 (ออนไลน์ได้)
- โน้ต Thapster ยังไม่ได้เทสเลย แต่ก็ไม่อยากทิ้งโอกาสเพราะชอบเพลงนี้ (Paparazzi.. อู้ลัลลา หล้า)
- เริ่มทำมิวสิคเกมใหม่ของตัวเอง เพื่อความฝันที่จะรวมพลังให้ศิลปินเพลงสไตล์โดจินชิไทยมีจุดยืน (ตัวเองด้วย ฮา)

แล้วก็รู้อยู่ว่าตัวเองเป็นพวก impulse action แบบว่า เหี้ย ไอเดียนี้น่าลองว่ะ ทำเลยไม่นอนแมร่งงง แบบนี้ มันเลยชอบมีอะไรมาแทรกเสมอๆ (ไฟติด นั่นแหละ)

- สติกเกอร์ไอ๊วาดเสร็จแล้ว แต่อยู่ๆอยากเทสสติกเกอร์ให้ไอ๊ก่อนขาย (จริงๆไม่น่าเสนอตัวเทสเลย พลาดอย่างแรง เดี๋ยว resume ทีหลัง)
- วันก่อนเล่นกับแมวเลยคิดเกมจ้องตากับแมวได้ ทำ prototype จนเช้าเลย ทำให้ต้องทนอดนอนจนคืนต่อไปแทบจะเป็นซอมบี้ แถมนอนนานขึ้นอีก (ไม่คุ้มค่อดๆ แต่ต้องทำเพราะตารางแน่นเอี่ยด)
- อยู่ๆก็คิดได้ว่า ตอนเด็ก เคยเห็นวันสงกรานต์เป็นวันสงคราม (?) เลยมาโป๊ะกับไอเดียที่อยากลองวาดการ์ตูน layout แบบญี่ปุ่นมานาน แต่ก็ไม่อยากประณีตมากจนเสียเวลาก็เลยลองวาดลวกๆลงเพจตัวนากดู แล้วต้องรีบด้วยเพราะช่วงนี้เป็นวันสงกรานต์ ถ้าลงช่วงนี้อาจจะมีคนชอบก็ได้มั้ง

จนวาดไปได้ 7-8 หน้าเท่านั้นก็นึกได้.. นี่คืนวันเสาร์ หน้านึงใช้เวลา 40 นาที.. คูณทั้งเนื้อเรื่องเข้าไป เทียบกับเวลา... ซากุระก็จะร่วงแล้ว.. เกมก็.. เรียนญี่ปุ่นวันนี้ก็โดดมาวาด.. แล้วอัดเสียง.. วันจันทร์ประชุมแลปต่อด้วย user test.. อังคารล่ะ พุธ หมดเวลา หมดสงกรานต์.. แล้วเกม.. Unite ล่ะ.. ถ้าอังคารก็แปลว่าต้องทบทวนญี่ปุ่นก่อนเข้าคลาส..

ปั้บ ทันใดนั้นเหมือนฟิวส์ขาด เครื่องหยุดทำงานลง! เหมือน schedule แล้วติดลูป แล้ว exception มัน throw ออกมา

ไปนอนบนเตียงแล้วรู้สึกได้ว่ามันนิ่งว่ะ มันนิ่ง!

คือไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่าที่ผ่านมามันไม่นิ่ง เรียนเสร็จ ทำสิ่งที่อยากทำ ทำๆๆ แล้วก็เรียน วนไปวนมา ไอ้สิ่งที่อยากทำนี่ มันไม่ใช่ความนิ่งเลย มันไม่ใช่การผ่อนคลายนั่นเอง แต่มันอยากทำ

สิ่งที่หายไปตลอดมกรา กุมภา มีนา เมษา คือความนิ่ง?

ก็เลยตัดสินใจทิ้งโปรเจคการ์ตูนสงกรานต์ เสียดายมาก ที่มีในหัวนี่ อยากบอกให้คนอื่นรู้ซะจริงว่าเราเคยเห็นสงกรานต์เป็นยังไง เหอๆ แต่ตัดใจแล้ว

แล้วอะไรดลใจให้เล่นเกมก็ไม่รู้.. นานแค่ไหนที่ไม่ได้ใช้คีย์บอร์ดพิมพ์โปรแกรมกับพิมพ์ address ใน web browser... สนุกมาก

หลังเล่นเกมเลยทำกับข้าวแบบ ใช้เวลา ซะที พอกันทีกับราเมง (กินติดต่อกันประมาณ 6 ครั้งต่อสัปดาห์ มาเป็นเดือน) ที่ทำง่ายแค่โยนทุกอย่างลงหม้อ (ผักก็เป็นแบบหั่นมาแล้ว) ทำข้าวผัด หั่นเอง สนุกเหมือนกันน่ะ ทำให้นึกถึงความตั้งใจประมาณ ปีสองปีก่อน อยากทำอาหารเป็น เผื่อมีโอกาส จะได้ทำให้คนสำคัญมีความสุขได้ หายไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

แล้วก็ตัดสินใจไม่เช็คสติกเกอร์ โดนด่าอีกว่าสั่งแล้วสุดท้ายก็ไม่ทำ โตไปจะไม่ไปเป็น leader ใครอีกต่อไปละ ยากเกิ้น ตอนนี้พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกผู้บริหาร เขาไม่ได้ทำงานเองด้วย มันวุ่นวายจริงๆ ตัดสินใจอะไรเยอะแยะ นับถือพวกผู้บริหารขึ้นมาเลย ถ้าทำงานด้วยคงตายพอดี แถมทวงก็โดนบ่นด้วยแต่ชาชินละ (การจำไม่ได้มันน่ากลัว ทำยังจะกลับมาจำได้ถ้าจำไม่ได้แล้ว ถ้าสั่งไปแล้วลืมแล้วไม่ทวงจะให้ทำยังไงในเมื่อเชื่อใจแล้วไม่ค่อยเป็นจริง.. สัญญาที่เราจำได้คนเดียวเขาผิดหรือเราผิดเองที่สำคัญสัญญานั้นไปเองคนเดียว.. เริ่มหลุดไปประเด็นอื่น)

จะว่าไปไอ้ความคิดแบบนี้แหละที่ทำให้ลุยกับทุกอย่างมาได้จนถึงตอนนี้ ทำเกม! ชอบทำเกมมาตั้งแต่เด็กแล้วแหละแต่ว่า พอท้อขึ้นมาแบบเพื่อนไม่ช่วยเลยซักคนงี้ เหลือคนเดียวงี้ ความชอบมันช่วยไม่ได้แล้ว แต่เพราะไอ้ความคิดที่ว่า "เผื่อมีโอกาส" มันวิเศษสุดๆ แต่ถามว่าสุดท้ายโอกาสมามั้ย.. ส่วนมากก็ไม่ แต่กว่าจะรู้ว่าไม่มีโอกาส สิ่งที่ทำมันก็สำเร็จไปแล้วก็ถือว่ายังดี จนถึงตอนนี้ยังจำได้หมดว่าเกมไหนที่ทำ ที่คนที่อยากให้เล่นมาเล่นบ้าง จำได้แม้กระทั่งสถานที่ ถ้า Go Green คือโต๊ะไม้ติดปลั๊กหน้าคอมม่อนทางขวา ถ้าโป้งแปะคือโต๊ะขาวในห้องคอมม่อนตัวกลาง จำได้ว่าพอเห็นภาพนั่น มันหายเหนื่อยหมด ดีใจที่สิ่งที่เชื่อมั่นมันเป็นจริงแม้จะแค่ไม่กี่นาที (เพราะเกมมันกาก 55)

แต่งเพลง ญี่ปุ่น ขายเกม ทุกอย่างที่ทำตอนนี้ก็เพราะว่ารู้ดี ตั้งแต่ตัดสินใจไม่อยากรับงานราชการหรืองานประจำ มันก็เป็น death sentence เรียบร้อยแล้วว่าถ้าเรียนจบนี่แล้วยังไม่มีอะไรอีก ก็ไม่ต่างอะไรกับไอ้โง่ที่ทำอะไรไม่ได้เลย ดูแลใครไม่ได้เลย ความคิดที่ว่า เผื่อมีโอกาส มันก็มาช่วยอีกครั้ง เผื่อในอนาคตเราจะได้ช่วยหาเงินได้นะ อนาคตเราอาจจะรับจ้างทำเพลงประกอบช่วยหาเงิน ขายเกมหาเงิน หรือไปนั่งขายของทำมือที่เป็นตัวละครจากเกมตัวเอง

พอคิดได้แบบนั้นแล้วก็เศร้านิดหน่อยที่ความสุขจากการหยุดนิ่งครั้งนี้มันคงต้องหายไปในอีกไม่นาน คือพรุ่งนี้นั่นแหละ ต้องกลับมาติดเครื่องใหม่เหมือนเดิม แต่อย่างน้อยวันนี้ก็ได้รู้ว่ามันไม่เลวเลย และได้เรียนรู้ว่าการทำสิ่งที่อยากทำมันมี threshold นึงอยู่.. ตะกี้คงจะทะลุมันไป

จะว่าไป พรุ่งนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่มีซากุระแล้ว (ต้นไม้บ้าอะไรทั้งปีบาน 2 สัปดาห์) ไปดูเช้าๆหน่อยดีมั้ยนะ มาญี่ปุ่น ไม่ได้เที่ยวคงน่าเสียดาย

แต่ที่ไม่ได้ไปกับพวกพี่ๆเพื่อนๆเท่าไหร่ เพราะชอบไม่ตรงกัน.. ทุกคนมีจักรยานหมด ทุกคนมีสโนบอร์ดหมด (อันนี้ไม่ชอบจริงๆ จ้างให้ก็ไม่ซื้อ 55) ทุกคนชอบปาร์ตี้ ชอบไปเที่ยวกินดื่มบุฟเฟต์.. ทำไมเราไม่เห็นชอบเลย ถ้าชวนใครมาเดินกัดเบอร์เกอร์เล่นในโอซาก้า คงไม่มีใครอยากมาด้วยเหมือนกัน (อร่อยจะตายแถมมีให้ลองตั้งหลายรส บุฟเฟต์ไปกินกันกินแต่เดิมๆไม่บ่นมั่งอะ 55) เล่นมิวสิคเกมอาร์เขต 2 ชม. ติดก็พอจะเดาได้ว่าไม่มีใครอยากทำ สุดท้ายเลยไม่ได้ชวนใคร เจอพี่ทีไรโดนทักประจำว่า หายไปนานเลยนะ! ทั้งๆที่เรารู้สึกว่าก็ไม่ได้นานนะ แต่พวกพี่ๆเขาไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดจนกลายเป็นว่าเราหายไปนาน คือ group line นี่โหดมาก 700 message ทุกครั้งที่เช็ค แล้วเช็คทีไรก็มีแต่อยู่ร้านอาหารหรือไปเที่ยวกันแล้ว.. แจมไม่ทัน แต่ให้เช็ค line บ่อยๆก็ไม่ใช่ เพราะก็ทำสิ่งที่อยากทำอยู่เรื่อยๆ

พี่ๆก็บอกอยู่นะว่าไม่เห็นจะฟลัดเร็วเลย ตอนแรกก็งงว่าไม่เร็วบ้าอะไร 700 ตลอด แต่วันนี้ก็พอจะคิดได้แล้วว่าเราเองนี่แหละที่เวลาว่างไม่เท่าคนอื่น

แล้วก็เอาเงินมาจากไหนกัน งง 55 นี่ Adobe ก็ต้องซื้อใหม่แล้ว (20000 เยน) แถม Komplete ก็ต้องซื้อ (50000 เยน).. ถ้าเราไม่ใช้โปรแกรมแท้เราคงจะมีเงินสอยจักรยานบ้างแล้ว นี่แม้แต่แอร์/ฮีตเตอร์ยังไม่กล้าที่จะติด (30000 เยน) ห่มผ้าเอาดีกว่า แต่ถ้าซื้อหมดนั่น.. แผนที่ว่าจบโทไปต้องมีเงินอยู่ไทยโดยไม่ทำงานได้อย่างน้อย 1 ปีก็คงพังหมดน่ะสิ นี่อะไร ในธนาคารมี 50000 เยนเอง ส่วนธนาคารไทยที่เคยมีเกือบแสนจากการทำงานที่ บ. Extend มา 1 ปีก็มลายหมดไปกับน้องมะลิลา (Macbook Pro!!!) และค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับบินไปบินมา ที่คงจะซื้อเผื่อสำหรับเดือนธันวาไว้อีก (เสี่ยงมาก แต่อยากจริงๆ) เท่ากับว่าจบไปคงลำบากแน่ๆ

พอวกกลับมาเรื่องนี้ปุ๊บ... อืมมม เงินงั้นเหรอ ต้องติดเครื่องใหม่ซะแล้วเหรอเนี่ย

ร่ายยาวแบบไม่เรียบเรียงก็มันส์ดีนะ 55 แต่เดี๋ยวคงต้องไปอาบน้ำ (ไม่ได้อาบมา 1.5 วันแล้ว! พักหลังๆนี่ปกติมาก) จะได้นอนแล้วตื่นไปดูซากุระตอนเช้า.. พูดถึงซากุระก็นึกได้ว่ามีอีกโปรเจคคือเอาภาพซากุระที่ถ่ายๆมานี่มาแต่งแล้วโยนลงเว็บตัวเอง (โปรเจคเยอะจังฟระ)

ตีสามแล้ว รถไฟเที่ยวแรกคงประมาณตี 5 นอนดีมั้ยน้อ เวลานอนจะเละเป็นครั้งที่ 5 ของเดือนนี้แล้วนะ แล้วเวลาจะรีเซ็ตกลับมาเป็นคนปกตินี่โคตรทรมานเพราะต้องอดนอน เหมือนกับเสียไปอีกวันเปล่าๆเลยเพราะสภาพซอมบี้ทำอะไรไม่ค่อยได้

พอละๆ เหมือนจะจบนานแล้วแต่ก็มีเรื่องบนเรื่อยๆ พอ พอ 555

ถ้าตัวเองในอนาคตกลับมาอ่านนี่คงตลกดีพิลึก

..พอ!


No comments:

Post a Comment